ที่เที่ยวปราจีนบุรี
5 ที่เที่ยว ปราจีนบุรี ครบทุกอารมณ์ แบบฉบับวันเดย์ทริป ไม่ต้องนอนค้างคืน เพียงแค่ขับรถเที่ยววันเดียวจบ ไม่จำเป็นต้องเที่ยววันหยุดยาว วันไหนที่ว่าง ๆ ก็เที่ยวได้ ยิ่งช่วงนี้ประเทศไทยเปิดให้ท่องเที่ยวด้วยกัน เพราะการระบาดของโควิดดีขึ้นแล้ว ไปดูว่าแหล่งที่เที่ยวมีที่ไหนกันบ้าง
1. The Verona at Tub Lan
ที่เที่ยว ปราจีนบุรี ครบทุกอารมณ์ แบบฉบับวันเดย์ทริป ไม่ต้องนอนค้างคืน เพียงแค่ขับรถเที่ยววันเดียวจบ ไม่จำเป็นต้องเที่ยววันหยุดยาว วันไหนที่ว่าง ๆ ก็เที่ยวได้ ยิ่งช่วงนี้ประเทศไทยเปิดให้ท่องเที่ยวด้วยกัน เพราะการระบาดของโควิดดีขึ้นแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่แรกที่อยากแนะนำให้เที่ยวนั้นก็คือ The Verona at Tub Lan สัมผัสกับบรรยากาศอิตาลีท่ามกลางขุนเขาทับลาน ด้วยพื้นที่กว่า 300 ไร่ ที่ยกเอาเมืองเวโรน่าแห่งอิตาลีมาไว้ที่ทับลานกันเลยทีเดียว ด้วยการออกแบบและตกแต่งอาคารและสถานที่ต่าง ๆ เป็นสถาปัตยกรรมที่จำลองเมืองเวโรน่า ด้วยตัวสะพาน ทะเลสาบ หอคอย และหอระฆัง ลานกลางแจ้ง เรียกได้ว่ามันคือเมืองเวโรน่าอิตาลีดีดีนี่เองเที่ยวที่ไทยแต่บรรยากาศเหมือนได้ไปต่างประเทศ หลายจุดหลายมุมให้เราได้แชะภาพสวย ๆ กันไปเลย และที่โดดเด่นของที่นี่คือกิจกรรมนั่งเรือ ล่องเรือกอนโดล่า ชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางการล่องเรือในลำคลอง ช่างเป็นอะไรที่สวยงามมากอย่างบอกไม่ถูกต้องมาเห็นและสัมผัสด้วยตัวเองแล้วจะหลงรัก
2. อุทยานแห่งชาติทับลาน
ที่เที่ยว ปราจีนบุรี ครบทุกอารมณ์ แบบฉบับวันเดย์ทริป ไม่ต้องนอนค้างคืน เพียงแค่ขับรถเที่ยววันเดียวจบ ไม่จำเป็นต้องเที่ยววันหยุดยาว วันไหนที่ว่าง ๆ ก็เที่ยวได้ ยิ่งช่วงนี้ประเทศไทยเปิดให้ท่องเที่ยวด้วยกัน เพราะการระบาดของโควิดดีขึ้นแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่อีกหนึ่งที่ที่อยากแนะนำให้เที่ยวนั้นก็คือ อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่น่าเที่ยว และหากใครมาเที่ยวที่นี่อาจจะต้องนอนเต้นท์พักค้างแรมแน่นอน เพราะจะอดใจไม่ไหวที่จะกลับไปโดยไม่ได้ดูวิวทิวทัศน์รับบรรยากาศทะเลหมอกดูพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกดูพระอาทิตย์ตกดินอย่างแน่นอน เพราะที่นี่นั้นเป็นอุทยานที่มีหลายจุดให้เที่ยวชม อุทยานไม่ว่าจะน้ำตกต่าง ๆ เช่น น้ำตกทับลาน อ่างเก็บน้ำทับลาน แล้ว ยังเป็นเส้นทางการศึกษาธรรมชาติที่สวยงาม เพราะที่นี่จะมีสัตว์ป่าให้ได้เห็นหลากหลายชนิดกันเลยทีเดียว นอกจากจะมีลานกางเต้นท์ให้ชมแสงจันทร์ยามค่ำคืนท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติกันแล้วก็ยังมีบ้านพักให้กับคนที่ไม่ชอบนอนเต้นท์แต่อยากสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติให้อีกด้วย
3. แก่งหินเพลิง
ที่เที่ยว ปราจีนบุรี ครบทุกอารมณ์ แบบฉบับวันเดย์ทริป ไม่ต้องนอนค้างคืน เพียงแค่ขับรถเที่ยววันเดียวจบ ไม่จำเป็นต้องเที่ยววันหยุดยาว วันไหนที่ว่าง ๆ ก็เที่ยวได้ ยิ่งช่วงนี้ประเทศไทยเปิดให้ท่องเที่ยวด้วยกัน เพราะการระบาดของโควิดดีขึ้นแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่อีกหนึ่งที่ที่อยากแนะนำให้เที่ยวนั้นก็คือ แก่งหินเพลิง กับกิจกรรมสุดมันส์ที่สายลุยสายผจญภัยตามธรรมชาติต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน กับการล่องแก่งหินเพลิงไปตามลำน้ำที่มีกระแสน้ำเชี่ยว หากเป็นช่วงฤดูฝนน้ำจะหลาก ทำให้การล่องแก่งนั้นสนุกสุดมันส์กันไปเลย โดยการล่องแก่งที่นี่จะมีการดูแลความปลอดภัยของนายท้ายเรือผู้ชำนาญการด้านการล่องแก่งและชำนาญด้านเส้นทางในการล่องแก่ง เรียกได้ว่าสายลุยทางน้ำต้องชอบกับการผจญภัยทางน้ำนี้อย่างแน่นอน แต่หากใครที่ไม่ชอบและกลัวก็คงต้องอยู่บนเนินจุดล่องแก่งรอ แต่การรอคอยนั้นไม่สนุกแน่นอน อาจลองใช้การรวบรวมความกล้าแล้วไปผจญภัยด้วยกันเลย แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าถ้าว่ายน้ำไม่เป็นนี่อย่าลองเลยนะ และถ้าใจไม่กล้าพอการนั่งรอที่จุดรอคอยก็คงจะดีที่สุดว่าไหมล่ะ
4. ดินแดนหิ่งห้อย
ที่เที่ยว ปราจีนบุรี ครบทุกอารมณ์ แบบฉบับวันเดย์ทริป ไม่ต้องนอนค้างคืน เพียงแค่ขับรถเที่ยววันเดียวจบ ไม่จำเป็นต้องเที่ยววันหยุดยาว วันไหนที่ว่าง ๆ ก็เที่ยวได้ ยิ่งช่วงนี้ประเทศไทยเปิดให้ท่องเที่ยวด้วยกัน เพราะการระบาดของโควิดดีขึ้นแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่อีกหนึ่งที่ที่อยากแนะนำให้เที่ยวนั้นก็คือ ดินแดนหิ่งห้อย อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ชมความสวยงามของบรรดาหิ้งห้อยที่ส่องแสงระยิบระยับท่ามกลางป่าที่อุดมสมบูรณ์ไม่ใช่แค่พันตัวนะ แต่มันคือเป็นหมื่น ๆ ตัวกันเลยทีเดียว สามารถที่จะเข้าชมฟรี ที่ค่ายพรหมโยธี ต.ไม้เค็ด อ.เมือง โดยที่นี่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในการชมความงาม มหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สวยงามของหิ้งห้อย ซึ่งเราจะสามารถรับชมแสงแห่งหิ้งห้อยนี้ปีละครั้งเท่านั้นเอง และปัจจุบันได้เปิดให้รับชมได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป โดยเวลาที่เราจะเข้าชมและเห็นแสงจากหิ่งห้อยได้มากที่สุดก็คือ ตั้งแต่เวลา หกโมงครึ่งไปจนถึงสองทุ่มครึ่ง และในการเยี่ยมชมครั้งนี้ต้องรักษากฎระเบียบของการเข้าชมด้วยนะ เช่น ไม่จับหิ่งห้อย ไม่ฉายไฟบริเวณโดยรอบเป็นต้น และเชื่อว่าการได้มาดูแสงแห่งหิ่งห้อยนี้จะประทับใจอย่างแน่นอน
5. วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์
ที่เที่ยว ปราจีนบุรี ครบทุกอารมณ์ แบบฉบับวันเดย์ทริป ไม่ต้องนอนค้างคืน เพียงแค่ขับรถเที่ยววันเดียวจบ ไม่จำเป็นต้องเที่ยววันหยุดยาว วันไหนที่ว่าง ๆ ก็เที่ยวได้ ยิ่งช่วงนี้ประเทศไทยเปิดให้ท่องเที่ยวด้วยกัน เพราะการระบาดของโควิดดีขึ้นแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่อีกหนึ่งที่ที่อยากแนะนำให้เที่ยวนั้นก็คือ วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์ พลังแห่งความเชื่อและศรัทธาจะนำพาเราได้มาสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดต้นโพธิ์ ที่ศรีมหาโพธิ์นี้ ซึ่งต้นโพธิ์ที่นี่เชื่อกันว่าคือหน่อของต้นโพธิ์ที่นำมาจากเมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย และมีอายุเก่าแก่มานานถึง 2000 ปีโดยต้นโพธิ์แห่งนี้มีขนาดใหญ่รอบต้นถึง 20 เมตร สูง 30 เมตร และเส้นผ่าศูนย์กลาง 25 เมตร บรรยากาศของต้นโพธิ์ก็จะร่มรื่นเหมาะแก่การมานั่งสมาธิวิปัสนา ซึ่งเรียกได้ว่าบรรยากาศของที่นี่นั้นมีกลิ่นอายและความคล้ายกับที่ต้นโพธิ์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดียกันเลยทีเดียว หากใครได้มากราบไหว้และสักการะก็เหมือนราวกับว่าได้มากราบไหว้และบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันเลยทีเดียว
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 ที่เที่ยว ปราจีนบุรี ครบทุกอารมณ์ แบบฉบับวันเดย์ทริป ไม่ต้องนอนค้างคืน เพียงแค่ขับรถเที่ยววันเดียวจบ ไม่จำเป็นต้องเที่ยววันหยุดยาว วันไหนที่ว่าง ๆ ก็เที่ยวได้ ยิ่งช่วงนี้ประเทศไทยเปิดให้ท่องเที่ยวด้วยกัน เพราะการระบาดของโควิดดีขึ้นแล้ว ซึ่งแต่ละที่นั้นไม่ไกลจากเมืองกรุง ทริปเที่ยววันเดียวก็สนุกได้เช่นกัน เช็คเวลาวางแผนเที่ยวกันไปเลย
เครดิตรูป
อ่านต่อที่ ภาคใต้
