ที่เที่ยวเชียงใหม่หน้าหนาว
หน้าหนาวกำลังจะมาเยือนแล้ว เตรียมตัวไปสูดอากาศบริสุทธิ์ด้วยกันกับ 9 ดอย ที่เที่ยวเชียงใหม่หน้าหนาว สัมผัสอากาศเย็น 2022 ออกไปชาร์จพลังจากธรรมชาติในจังหวัดเชียงใหม่ ในปี 2022 นี้ มาเช็คกันว่าทั้ง 9 ดอย
คุณเคยไปมาแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เตรียมแพ็คกระเป๋าแล้วตามไปด้วยกันเลย!
1. สันป่าเกี๊ยะ ดอยแม่ตะมาน
ที่เที่ยวเชียงใหม่หน้าหนาวที่แรกนี้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี อยู่ในอ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ขอเหมารวมเลยค่ะ เพราะทั้งคู่ห่างกันเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น ที่แรก คนจะนิยมชมพระอาทิตย์ขึ้น นั่นคือ สันป่าเกี๊ยะ หรือ สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ (คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นผู้ดูแล) ที่นี่เป็นพื้นที่ทดลองปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ลูกท้อ ที่นี่มีบ้านพัก 4 หลัง หลังละ 1,000 บาท/หลัง/5 คน มีห้องน้ำและครัว, มีเรือนแถว 500 บาท/ห้อง/5คน, เต๊นท์ walk-in เข้ามาเลย 50 บาท/คนและอีกที่ที่คนนิยมไปชมพระอาทิตย์ตกดินคือ ดอยแม่ตะมาน หรือ หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ที่นี่มีบ้านพักรับรองและจุดกางเต๊นท์ ทั้งสองเริ่มเปิดให้บริการ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป ทั้งสองที่สามารถมองเห็นวิวของดอยหลวงได้ชัดเจน หากที่พักเต็มก็ยังมีที่พักของภาคเอกชนโดยรอบอีกเช่นกัน คำแนะนำ : เตรียมอาหาร ไฟฉายและน้ำมันรถให้พร้อม (ที่นี่มีไฟใช้ถึงแค่ 22.00 น.)เส้นทางค่อนข้างสมบุกสมบัน ต้องใช้ความระมัดระวัง แนะนำรถ4WD (โดยเฉพาะฤดูฝนและฤดูหนาวที่ถนนเปียก ดินลื่น ถนนค่อนข้างขรุขระ) รถชนิดอื่นๆโปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนออกเดินทางรักษาความสะอาดพร้อมทั้งเตรียมถุงดำมาเก็บขยะลงไปด้วยทุกครั้ง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ (ไม่รับหรือติดต่อจองผ่านเพจ)
สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน
เบอร์ : 05-322-2014 เบอร์ : 089-854-4014
2.ดอยแม่โถ
ดอยแม่โถ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เป็นชุมชนของชาวม้งและกะเหรี่ยง ขึ้นชื่อเรื่องผักกาดหวาน ผักสลัด อะโวคาโด ห่างจากตัวเมืองไป 3 ชม. แต่ทางหมู่บ้านไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขับรถทุกชนิดขึ้นไป ต้องจอดรถไว้ที่คิวรถรับ-ส่งนักท่องเที่ยว โดยดอยแม่โถนั้นต้องนั่งรถไปอีกครึ่งชม.และเดินเท้าต่อ 1 ชม.ก็จะได้พบกับยอดดอยที่จะมีหมอกมาล้อมรอบเราไว้ สามารถค้างคืนได้ แต่นอกจากดอยแม่โถแล้ว ที่เที่ยวเชียงใหม่หน้าหนาวที่เป็น Hidden gem อีกหนึ่งที่ ๆ คนนิยมไปก็อยู่ในดอยแม่โถ นั่นคือ ทุ่งหญ้าสะวันนา เป็นทุ่งหญ้าท่ามกลางเขาที่สลับซับซ้อนกัน บรรยากาศคล้ายกับโซนยุโรปเลยทีเดียว มีน้องวัวด้วยและยังสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา เห็นบรรยากาศแล้วถึงกับต้องรีบเตรียมเก็บกระเป๋ากันเลย ส่วนค่ารถจะเป็นแบบเหมาตามระยะทาง ไป-กลับ ทุ่งหญ้าสะวันนา ราคา 500 บาท/ไม่เกิน 10 คน/เที่ยว (หากค้างคืนจ่ายเพิ่มอีก 600 บาท)ไป-กลับ ดอยแม่โถ ราคา 1,000 บาท/ไม่เกิน 10 คน/เที่ยว (หากค้างคืนจ่ายเพิ่มอีก 500 บาท)
คำแนะนำ : พกพาวเวอร์แบงค์และไฟฉายไปด้วย เพราะไฟฟ้าที่นี่มาจากแผงSolar cell
ถ้าจะขึ้นดอยไปดูพระอาทิตย์ตกดินควรมีไกด์มาด้วย เพราะอาจจะหลงทาง และเส้นทางบางจุดชันมาก
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์จองรถล่วงหน้า : 061-312-6106
เบอร์ฝ่ายประชาสัมพันธ์ : 083-642-6292
3.ดอยผ้าห่มปก
ดอยผ้าห่มปก อยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เดิมชื่อ อุทยานแห่งชาติแม่ฝางและอุทานแห่งชาติฟ้าห่มปก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และใช่ค่ะ ดอยนี้สูงเป็นอันดับที่ 2 ของไทยเลย มีอากาศเย็นตลอดปี จึงไม่แปลกที่ที่นี่จะกลายเป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ในหน้าหนาวสุดฮิตที่นักเดินป่าขึ้นเขาต้องมาพิชิตกัน ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของลำห้วย เช่น ห้วยแม่ใจ แม่สาว เป็นต้น มีบ่อน้ำพุร้อนฝาง มีสัตว์ป่าและพืชพรรณหายาก เช่น ตะเคียนทอง บัวทอง เทียนผ้าห่มปก ผีเสื้อหางดาบตาลไหม้ นกปีกแพรสีม่วง เป็นต้น ส่วนยอดดอยเดินขึ้นไปจากจุดกางเต๊นท์ 3.5 กม. แนะนำให้ติดต่อไกด์ได้ที่อุทยาน ค่านำทาง 300 บาท/ไกด์ 1 คน ควรมีไกด์ที่ชำนาญเส้นทางดีกว่าไปกันเอง ที่พักจะเป็นเต๊นท์ มีของอุทยานและเสียค่าบำรุงหากนำเต๊นท์มาเอง
คำแนะนำ : พกไฟฉายที่เปิดได้มากกว่า 2 ชม. หากต้องการขึ้นดอยไปชมพระอาทิตย์ขึ้น
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก
เบอร์ 05-345-3517-8, 05-345-1141-302, 084-483-4689
4.กิ่วแม่ปาน
กิ่วแม่ปาน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ นี่คือหนึ่งในลิสต์ของที่เที่ยวเชียงใหม่ที่ต้องไปในช่วงฤดูหนาวอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว เพราะด้วยบรรยากาศของที่นี่ ภาพทิวเขาตัดกับทะเลหมอก แสงตะวันยามพระอาทิตย์ขึ้นที่สาดส่องลงมาราวกับสวรรค์ นอกจากชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกที่นี่ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีระยะทางประมาณ 3.2 กม. ใช้เวลา 2-3 ชม. โดยมีค่าไกด์นำทาง 200 บาท/กลุ่ม นักท่องเที่ยวต้องฟิตร่างกายเตรียมพร้อมสักหน่อย และที่พิเศษไปกว่านั้นคือบริเวณสันเขา ยังพบพืชหายากอย่าง กุหลาบพันปี/กุหลาบป่า/ดอกคำแดง ออกดอกปีละครั้งในช่วงหน้าหนาว และเหมยขาบ/แม่คะนิ้ง/น้ำค้างแข็งที่จะปรากฎให้เห็นบนหญ้าและพุ่มไม้เล็ก ๆ หากอยากไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นที่สุดแห่งหนึ่งของไทยในฤดูหนาวนี้ ที่นี่ก็เป็นอีกที่ๆไม่ควรพลาดนะคะ
คำแนะนำ : ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
เบอร์ : 05-328-6730, 05-328-6728
เบอร์ติดต่อสำหรับหาไกด์นำทาง : 093-146-9682 (คุณหล้า)
5.ดอยค้ำฟ้า
ดอยค้ำฟ้า อยู่ในหน่วยจัดการต้นน้ำแม่งาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สูง 1,834 เมตร ป่าที่นี่มีอายุมากกว่า 30 ปี ทำให้เหลือเจ้าหน้าที่ไม่กี่คนซึ่งพวกเขาไม่สามารถทำแนวกันไฟหรือปลูกป่าทดแทนทั้งหมดได้ แต่เพราะไม่มีงบประมาณจึงต้องเปิดเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อสร้างรายได้และนำมาพัฒนาพื้นที่ ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากมีดาวในยามค่ำคืนและมีหมอกในยามเช้าแล้ว ก็ยังมีดอกพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งอีกด้วย จากหลาย ๆ คนที่เคยเห็นจริง ๆ ต่างเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่าต้นพญาเสือโคร่งที่นี่สวยมากกว่าหลาย ๆ ที่ที่เคยไป แต่ปากทางขึ้นดอยค่อนข้างแคบชัน แนะนำว่าหากไม่ชำนาญเส้นทางให้ใช้บริการรถของเจ้าหน้าที่ คิดค่าบริการ 300 บาท/คน/2วัน1คืน และ 150 บาท/คน/ไม่ค้างคืน ซึ่งจะจำกัดนักท่องเที่ยวแค่ 50 คน/วัน เพราะหน่วยฯ ต้องขนน้ำจากด้านล่าง และมีให้บริการเต๊นท์ 200 บาท/คน
หากนักท่องเที่ยวไม่อยากจะพลาดอีกหนึ่งที่เที่ยวของเชียงใหม่ในหน้าหนาวนี้ แบกเป้ไปลุยกันค่ะ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เจ้าหน้าที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่งาย (จำกัดคนเข้าแค่ 50 คน/วัน)
เบอร์ 081-992-7346 , 081-881-7346
6.ดอยเต่า
“ไอหนุ่มดอยเต่า มันเศร้าหัวใจ๋ กิ๊ดมากิ๊ดไป มันน้อยใจ๋แต๊เล่า” 1 ในท่อนเพลงชื่อดังของวงนกแล วงดนตรีมากความสามารถในตำนานชื่อดังยุค 80’s ที่ใส่ชุดชาวม้งอันเป็นเอกลักษณ์ และสถานที่ที่ถูกกล่าวถึงนั่นคือ ดอยเต่า อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ หนึ่งในสถานที่พักผ่อนใจทั้งของชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวทั้งในหน้าหนาวจนไปถึงหน้าร้อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสุดสัปดาห์ ที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ คิดถึงวิทยา จากในฉากภาพยนตร์จะถูกถ่ายทำที่โรงเรียนบนอ่างเก็บน้ำซึ่งอ่างนี้อยู่เหนือเขื่อนภูมิพล เป็นต้นน้ำของแม่น้ำปิง เรียกว่า ทะเลสาบดอยเต่า ชาวบ้านที่นี่จับปลาในทะเลสาบ เช่น ปลาตะเพียน ปลาช่อน ปลานิล เป็นต้น และมีร้านอาหารบนแพเป็นหลัก ที่นี่จึงมีของฝากขึ้นชื่อเป็นปลาแห้ง/ปลาย่างมาก จะไปเช้าเย็นกลับหรือนอนบนแพ ตกปลา สังสรรค์กับครอบครัว เพื่อนฝูงได้ในราคาประมาณ 1,000 – 1,500 บาท อีกทั้งมีเรือนำเที่ยวไปยังเขื่อนภูมิพล จ.ตากอีกด้วย
7.ดอยปู่หมื่น
ดอยปู่หมื่น อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติผ้าห่มปก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ติดชายแดนเมียนมาร์-ไทย เป็นที่อยู่ของชุมชนชาวเผ่าลาหู่/มูเซอแดง อพลงมาจากจีนก่อนจะเข้าเมียนมาร์และเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทยและเป็นบ้านของนักแสดงสาว ริชชี่ อรเณศ หรือ นิลปัทม์จากสิเน่หาส่าหรี ที่นี่ถูกพัฒนาจากแหล่งปลูกฝิ่นมาเป็นการปลูกชาแบบดั้งเดิม โดยชาวบ้านนิยมปลูกชาอัสสัม เริ่มเก็บใบชาในช่วงเช้าแล้วนำมาคั่วด้วยเตาโบราณที่ใช้ฟืน ตากจนแห้งแล้วนำไปบรรจุถุง และปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า เป็นต้น ส่วนกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถร่วมทำได้ คือ เก็บใบชา เยี่ยมชมโรงงาน ชมน้ำตกปู่หมื่น/น้ำตกงวงช้างที่ไหลจากดอยผาหลวงแล้วกระแสน้ำเป็นเหมือนงวงช้างและยังมีการชมวิถีชีวิตและการละเล่นของชาวลาหู่ให้เที่ยวชมอีกด้วย หาอยากสัมผัสบรรยากาศโดยใช้เวลเต็มที่ ที่นี่มีดอยปู่หมื่น ลาหู่ โฮมสเตย์ ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวลาหู่ ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ ไร้ซึ่งความวุ่นวาย อากาศที่นี่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีน้ำตลอดปี ไม่ว่าจะฤดูฝนหรือหนาวก็มีน้ำ ซึ่งตอนนี้ดอยปู่หมื่นเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวชุมชนของจังหวัดเชียงใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เลือกให้ชุมชนดอยปู่หมื่นเป็น 1 ใน 10 ชุมชนเข้าในโครงการ Village to the world 4.0 เป็นต้นแบบจากทั่วประเทศเพื่อส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
จองที่พัก Facebook : ดอยปู่หมื่น ลาหู่ โฮมสเตย์
เบอร์ : 091-666-9215
8.สวนป่าดอยบ่อหลวง
ไปพักสมองให้ธรรมชาติมีส่วนช่วยบำบัดกับอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตช่วงหน้าหนาว(และฤดูอื่นก็เที่ยวได้นะ) ของเชียงใหม่ สวนป่าดอยบ่อหลวง อยู่ในองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ มีที่พักบรรยากาศโรแมนติกท่ามกลางทิวสน สายหมอกและแสงลอดเหมือนต่างประเทศหลากหลายรูปแบบให้เลือก ราคาเดียวไม่ว่าจะฤดูไหน อย่าช้ารีบไปจองที่พักนะจ๊ะ มีลานกางเต๊นท์ด้วย มีค่าบำรุงสถานที่ 100 บาท/คน สามารถทำอาหารและผิงไฟได้ ที่นี่ยังมีร้านกาแฟเล็ก ๆ ภายในอีกด้วย
คำแนะนำ : บ้านพักไม่ให้เอาสัตว์เลี้ยงเข้ามา และไม่ให้ทำอาหารทุกชนิด
หากไม่ได้เข้าพักสามารถเข้าชมได้ช่วงที่ไม่มีลูกค้า (11.00 – 14.00 น.) เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าพัก
แสงที่เหมาะกับการถ่ายรูป มี 15.00 น. – เย็น และช่วงเช้าที่พระอาทิตย์ขึ้น – 08.00 น.
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
จองที่พักผ่าน Facebook : สวนป่าดอยบ่อหลวง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ Doi Bo Luang FIO
เบอร์ : 092-586-9215 ในเวลา 09.00 – 18.00 น. (พัก 12.00 – 13.00 น.)
9.ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง หรือ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เป็น 1 ในที่ท่องเที่ยวของเชียงใหม่ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในฤดูหนาว เดิมเป็นพื้นที่ที่ที่มีการปลูกฝิ่น และพัฒนามาเป็นสถานที่ค้นคว้าวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาว พบกับบรรยากาศสุดโรแมนติกท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ชมดอกพญาเสือโคร่งบาน ชมไร่ชา ไร่สตอเบอร์รี่ สูดอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสกับวัฒนธรรมที่ผสมผสานของชุมชนชาวไทยภูเขา ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านนอแลของชาวเขาเผ่าปะหล่องเชื้อสายเมียนมาร์ หมู่บ้านขอบด้งของชาวมูเซอดำและมูเซอแดง(หน้าหมู่บ้านมีการจำลองวิถีชีวิตและบ้านเรือน)และหมู่บ้านหลวงของชาวจีนยูนนานที่อพยพจากจีนมา(เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าอาหารที่นี่อร่อยมาก) ที่ตั้งบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาร์ มีสถานที่ท่องเที่ยว เช่น สวนบอนไซ เรือนดอกไม้เมืองหนาว สวนดอกไม้ 80 ปี แปลงชา สวนกุหลาบอังกฤษ เป็นต้น ที่นี่มีที่พักและลานกางเต๊นท์ให้บริการทั้งของสถานีเกษตรและที่พักของชาวบ้าน
ติดต่อสอบถามเเพิ่มเติมได้ที่
จองที่พัก/สอบถามร้านอาหารสถานีฯ : 05-396-9476-78 ต่อ 114
เบอร์ : 05-396-9489 (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอ่างขาง)
และทั้งหมดนี่คือ พาขึ้น 9 ดอย ที่เที่ยวเชียงใหม่หน้าหนาว สัมผัสอากาศเย็น 2022 ขึ้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ชื่นชมและดื่มด่ำกับธรรมชาติ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่ผสมผสานของชาวเขา นอกจากนี้ ในจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากดอยที่ได้กล่าวไปข้างต้นก็มีอีกหลายดอยมากมายที่รอนักท่องเที่ยวทุกคนขึ้นไปเยี่ยมเยือน
และนอกจากที่เที่ยวเชียงใหม่หน้าหนาว จังหวัดอื่น ๆ ทั้งในภาคเหนือและภาคต่าง ๆ ต่างก็มีม่อน ดอยที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอนักท่องเที่ยวขึ้นไปพิชิตต่อไปเราจะพาไปพิชิตที่ไหนกันบ้าง รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
ข้อมูล
www.facebook.com
อ่่านต่อที่ 7 ที่เที่ยวกับแฟน สุดโรแมนติก เติมความหวานให้กัน สุดแฮปปี้ สวีทเกินปุยมุ้ย