ที่เที่ยว เหนือ หน้าหนาว
หน้าหนาว 2022 มีที่เที่ยวกันแล้วหรือยัง? เตรียมตัว เตรียมใจและเตรียมเงินแล้วออกเดินทางไปกับ 20 ที่เที่ยวเหนือ หน้าหนาว รับไอเย็น
และชมทะเลหมอก พักกายใจจากเมืองกรุงเข้าสู่โหมดธรรมชาติบำบัด
ว่าแต่มีที่ไหนบ้าง เก็บกระเป๋าแล้วไปเที่ยวกันเลย!
1. สะเมิง จ.เชียงใหม่
สะเมิง อำเภอหนึ่งในเชียงใหม่ที่มีอากาศเย็นแทบจะตลอดทั้งปี ยิ่งในฤดูหนาวไม่ว่าใครจะมาเที่ยวที่นี่ ต่างต้องมาลิ้มลองสตอเบอร์รี่ที่เป็นของขึ้นชื่อของ อ.สะเมิง รวมทั้งวิถีชีวิตที่เรียบง่าย มีผู้คนหลากหลลายเชื้้อชาติ จะทำให้ผู้มาเยือนตกหลุมรักที่นี่ได้อย่างไม่ยาก
อีกทั้ง ที่นี่ยังมีหลองข้าวสะเมิง ที่พักที่ดัดแปลงจากยุ้งข้าวของคนเหนือ ให้นักท่องเที่ยวได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ภูเขา ทุ่งนาและหมอกที่เงียบสงบ อากาศของที่นี่โดยเฉพาะหน้าหนาวไม่ต้องเปิดแอร์หรือแม้แต่พัดลมกันเลยทีเดียว โดยมีที่พักทั้งหมด 8 แบบที่มาพร้อมกับอาหารเช้า ถ้าอยากมาลองสัมผัสกับบรรยากาศนี้ก็ตามกันมาเลย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
จองห้องพักทางFacebook : หลองข้าวสะเมิง Lhongkhao Samoeng by Chi Villa
เบอร์ : 062-789-9444, 089-504-8108
2. ป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่
ป่าบงเปียง เป็นพื้นที่ที่โดดเด่นของภาคเหนือที่มีนาขั้นบันไดเขียวขจีสุดลุกหูลุกตา สลับกับภูเขาที่สลับซ้อน มีทั้งทะเลดาวในยามค่ำคืนและทะเลหมอกที่ฟุ้งเฟื่องในยามเช้า หากอยากใช้เวลาดื่มด่ำสัมผัสกับบรรยากาศของที่นี่ ขอแนะนำ บ้านระเบียงนาโฮมสเตย์ ที่นี่สามารถจอดรถได้สะดวก มีที่พัก 2 แบบ คือบ้านพัก 700 บาท/ท่าน (รวมอาหารมื้อเย็นและเช้า) และเต๊นท์ 100 บาท/ท่าน สามารถ walk in ได้เลย
คำแนะนำ : ที่พักใช้ไฟฟ้าจาก Solar cell ควรเตรียมไฟฉายและ Power bank ไปด้วย
ควรติดตามบรรยากาศผ่าน Facbook มาก่อน เพราะ นาขั้นบันไดจะมีสีต่างกันตามฤดูกาล (เขียว/ทอง)
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
จองที่พักผ่าน Facebook : บ้านระเบียงนา ป่าบงเปียง
เบอร์ : 080-794-6883
3. สวนดอกไม้และสวนส้มป้างฮวา จ.เชียงใหม่
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวฮิตที่สุดในดอยม่อนแจ่มช่วงเวลานี้ คงไม่พ้น สวนดอกไม้ป้างฮวาและสวนส้มที่มีดอกมากาเร็ตสีม่วงบานสะพรั่งอยู่และสวนส้มสายพันธุ์พรีมองค์ที่มีรสชาติอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีทางเดินไม้ไผ่รอบสวนไปยังสวนส้ม โดยมีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่คนละ 70 บาทและเด็กคนละ 40 บาท ราคานี้นอกจากได้วิวสวนดอกไม้และสวนส้ม รวมถึงวิวภูเขาด้านหลังแล้ว ยังได้พร็อพ (รองเท้าบูท ตะกร้าดอกไม้และสะพายหลัง รองเท้าบูทและอื่นๆ) อีกด้วย หากนักท่องเที่ยวอยากจะเก็บส้ม ที่นี่ก็มีให้บริการ โดยคิดเป็นกิโลละ 80 บาท สามารถชิมฟรีได้ในสวนเลยจ้ะ แถมยังมีคอนเทนต์ไปลง Instagram Facebook หรือจะ Tiktok ด้วยนะจ๊ะ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : สวนดอกไม้ ป้างฮวา&สวนส้ม
เปิดให้บริการเวลา : 07.00 น. – 18.00 น.
4. เชียงดาว จ.เชียงใหม่
หนึ่งในอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำปิง ที่นี่มีดอยหลวงเชียงดาวยอดเขาที่สูงที่สุดอันดับที่ 3 ทั้งในภาคเหนือและประเทศไทย โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,275 เมตร และที่นี่ยังได้รับประกาศจาก UNESCO ให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ของโลกด้วย
บ้านนาเลาใหม่ เป็นหนึ่งในชุมชนที่อยู่ใกล้ชิดและเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศความน่ารักของชาวเขาเผ่าลีซู ที่พักของที่นี่จะมีราคาเท่ากันแทบทุกที่ และรายได้นั้นจะเข้าสู่ชุมชนโดยแท้จริง
หากอยากใกล้ชิดสัมผัสวิถีชุมชนแล้ว เราขอแนะนำ บ้านระเบียงดาว ที่มีคาเฟ่และที่พักเป็นบ้าน 6 หลังในตัว โดยราคาบ้านพัก 650 บาท/คน และราคาเต๊นท์ 550 บาท/คน รวมอาหารเย็น
และเช้า (สามารถสั่งหมูกระทะเพิ่มเติมได้)
คำแนะนำ : ที่พักใช้ระบบไฟฟ้า Solar cell ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น/แอร์/พัดลม
เส้นทางที่ค่อนข้างชันและแคบ หากขับรถไม่ชำนาญ แนะนำรถรับจ้างจากตัวเมืองเชียงดาว
เที่ยวละ 150 บาท/คน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
จองที่พักผ่าน Facebook : บ้านระเบียงดาว
เบอร์ : 089-998-0712, 089-903-0083
5. สะปัน จ.น่าน
สะปัน หมู่บ้านชาวเหนือเล็ก ๆ น่ารักตามสไตล์น่านเนิบๆ ท่ามกลางทุ่งนา สายน้ำ หมอกและภูเขาที่โอบล้อม อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ในพื้นที่ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน นอกจากความน่ารักของเมืองแล้ว ผู้คนที่นี่ก็น่ารักไม่แพ้บรรยากาศเมืองเลยทีเดียว แถมชาวบ้านที่นี่เขานิยมปลูกข้าวและข้าวโพดกันด้วย หากอยากใช้เวลาที่สะปันให้เต็มที่
ขอแนะนำ สะปัน Riva camp ที่พักส่วนตัวที่เงียบสงบ มีห้องพักเพียง 4 หลัง เหมาะกับการพักผ่อนมาก ๆ เพราะที่นี่ไม่มีแอร์/ไวไฟ/ทีวี มีแค่พัดลม มีอ่างน้ำให้นอนแช่ดื่มด่ำกับบรรยากาศ และยังมีบริการแช่เท้าด้วยเกลืออีกด้วยนะ (เพราะที่นี่ คือ อ.บ่อเกลือยังไงล่ะ)
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
จองที่พัก : Line : https://line.me/ti/p/6uo4HBmdfW (เท่านั้น)
เบอร์ : 083-046-7746
6. ดอยเสมอดาว จ.น่าน
อีกหนึ่งดอยยอดฮิตที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทุกคนคงเคยได้ยินผ่านหู หรือได้อ่านผ่านตามาบ้างอย่างดอยเสมอดาว ที่อยู่ในพื้นที่การดูแลของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน สูงจากระดับน้ำทะเล 888 เมตร กับบรรยากาศสุดโรแมนติกที่นักเดินทางต่างก็มาเพื่อชมทะเลดาวที่มีมากมายจนนับไม่ถ้วน หากจะนับหมดฟ้าอาจต้องนอนกันอีกหลายคืนเลยทีเดียว และทะเลหมอกในยามเช้า ที่นี่อากาศเย็นตลอดปี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการรับลมหนาว และยังมีทั้งบ้านพัก เต๊นท์ และที่พักรูปแบบอื่นๆจากผู้ให้บริการหลากหลายเจ้า แน่นอนว่ากิจกรรมสุดฮิตในการขึ้นดอย อย่างกินหมูกระทะก็มีเช่นกัน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน – Sri Nan National Park
เบอร์ : 093-242–2914
7. ปัว จ.น่าน
เพราะโซเชียลมีเดียที่เฟื่องฟู ทำให้เราได้เห็นธรรมชาติที่สวยงามที่ถ่ายทอดออกมาทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างที่ อ.ปัว จ.น่าน อำเภอเล็ก ๆ ที่นอกจากอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติอย่างภูเขา ทุ่งนา อากาศหนาวและสายหมอกแล้ว ยังมีผู้คนน่ารักหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งคนไทลื้อ ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง เมี่ยนและลัวะ ให้คนที่ได้ผ่านไปมาได้สัมผัสวิถีแห่งธรรมชาติและวิถีแห่งวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันมาอย่างช้านาน หากผู้ที่ต้องการมาพักผ่อนและใช้ชีวิต Slow life ขอแนะนำ บ้านนอกคอนา โฮมสเตย์ท่ามกลางธรรมชาติ ภายในมีธารน้ำไหลให้เดินเล่นใกล้ที่พัก ที่พักมีทั้งอาหารเย็นและอาหารเช้าให้ โดยอาหารจะเป็นอาหารพื้นเมือง/ขันโตก และแน่นอนว่ามีหมูกระทะเหมือนกันนะจ๊ะ
ที่พักมีทั้งหมด 4 หลัง ราคาที่พักในแต่ละฤดูกาลจะไม่เหมือนกัน ในช่วงเดือนตุลาคม – กุมาพันธ์นั้นจะราคา 2,000 บาท/หลัง/2คน (หากมาเพิ่ม คิดท่านละ 500 บาท) แถมที่นี่ยังสามารถพาน้องหมาน้องแมวไปได้อีกด้วย โดยคิดค่าบริการ 300 บาท/ตัว ทาสน้องหมาน้องแมวพลาดไม่ได้แล้ว
คำแนะนำ : เช็คสถานที่ผ่านโซเชียลมีเดียก่อน เพราะนาแต่ละฤดูกาลจะมีสีแตกต่างกัน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
จองที่พักผ่าน Facebook : บ้านนอกคอกนา ปัว น่าน
เบอร์ : 062-456-1188
8. ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย
ดอยแม่สลอง NO.1ของการปลูกชา เพราะที่นี่ปลูกชาเยอะที่สุดในไทย โดยเฉพาะชาอู่หลงตั้งอยู่ที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงรายและที่เป็นที่ตั้งของชุมชนสันติคิรี ชุมชนเก่าแก่ของชาวจีนฮ่อที่อยู่ริมสันเขา อากาศเย็นสายตลอดปี หากอยากดื่มด่ำกับบรรยากาศชาวเหนือ สัมผัสกับวัฒนธรรมและสูดกลิ่นชาให้เต็มที่ ขอแนะนำ บ้านหอมหมื่นลี้ ที่พักสไตล์จีนประยุกต์วิวภูเขาและไร่ชา มีห้องพักแบบ Jacuzzi ด้วย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครันเลยทีเดียว ใครที่ชอบเที่ยวเขาแต่ก็ชอบความสะดวกสบาย ที่นี่เป็นอีกที่ ๆ น่าสนใจเลยทีเดียว
สำหรับราคาห้องพักจะแตกต่างตามประเภทของห้อง โดยราคาห้องที่ไม่มีอ่างเริ่มที่ 1,390 บาท/2คน และสำหรับราคาห้องที่มีอ่างจากุชชี่เริ่มที่ 5,500/2คน โดยทั้งหมดเป็นราคาต่อคืน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
จองที่พักผ่าน : www.reservation.roomscope.com https://reservation.roomscope.com/1654/th?fbclid=IwAR02RyBQaEOJu4DrHKTlkjr6cgQSuzw6q6e1p5qN469sPqbHedTR232NdNA
Facebook : บ้านหอมหมื่นลี้
9. อุทยานแจ้ซ้อน จ.ลำปาง
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง มีไฮไลท์ที่น่าใจ นั่นก็คือ บ่อน้ำพุร้อนที่นักท่องเที่ยวสามารถลวก/ต้มไข่ได้ตามสะดวก แต่ละบ่อจะมีป้ายกำกับว่าอุณหภูมิประมาณเท่าใด มีบริการห้องอาบน้ำและแช่น้ำแร่ไว้บริการให้อีกด้วย รวมถึงบ้านพักและลานกางเต๊นท์ภายในอุทยานอีกด้วย มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท/คน และเด็ก 20 บาท/คน
คำแนะนำ : ต้องระมัดระวังเด็กเล็กไม่ให้พลัดตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิสูง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน – Chae Son National Park
เบอร์ : 089-851-3355
10. ดอยฟ้างาม จ.ลำปาง
ดอยฟ้างาม อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ รวมถึงมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สัมผัสวัฒนธรรมของที่นี่ อย่าง พิธีกรรมสืบชะตาและประเพณีตานก๋วยสลากหรือสลากภัต ประเพณีของชาวล้านนาที่จะระลึกถึงผู้วายชนม์ด้วยการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ในส่วนของทางเดินขึ้นดอยจะต้องเดินเท้าเท่านั้น ไม่อนุญาตให้รถขิึ้นไป ใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 ชม. สามารถชมทะเลหมอกได้ 360 องศา ที่นี่มีลานกางเต๊นท์และคนนำทางให้บริการ ค่าใช้จ่ายเที่ยวละ 300 บาท (แบบเหมา) ส่วนอาหารและเครื่องดื่มต้องเตรียมมาเอง บนดอยไม่มีให้บริการ
คำแนะนำ : ศึกษาข้อมูลการเดินทาง ควรระมัดระวังเรื่องพิกัด GPS
ติดต่อสอบถามทั้งข้อมูลการเดินทางและอื่น ๆ ล่วงหน้า 2-3 วัน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : Doiphangam at Lampang – ดอยฟ้างาม บ้านสาแพะ จังหวัดลำปาง
เบอร์ : 086-249-6038
11. ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน
ถ้าหากใครไปเที่ยวหน้าหนาวที่แม่ฮ่องสอน สถานที่ยอดนิยม ฮิตติดลมบนที่ถูกขนานนามว่า สวิสเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก ปางอุ๋ง หรือ โครงการพระราชดำริปางตอง 2 อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยป่าสนต้นยักษ์ บรรยยากาศเงียบสงบและเย็นสบายตลอดทั้งปี ตอนกลางคืนสามารถมองเห็นดาวได้เต็มท้องฟ้า อีกทั้งยังมีเหล่าหงส์มาว่ายน้ำให้เห็นด้วย ที่พักมี 2 แบบทั้งเป็นแบบบ้านพักและกางเต๊นท์ในอุทยาน หากนำเต๊นท์มาเอง เสียค่าบำรุงสถานที่ 30 บาท/คน หากเช่าเต๊นท์อุทยาน ขนาด 3 คน 225 บาท
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับระเบียบปฏิบัติและจองห้องพักผ่านศูนย์ศิลปาชีพ จ.แม่ฮ่องสอน
เบอร์ : 05-361-1244, 096-978-6312
12. บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน
พูดถึงแม่ฮ่องสอนแล้ว จะขาด บ้านรักไทย อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ไปไม่ได้ ที่นี่เป็นหมู่บ้านของชาวจีนยูนนาน สมัยอดีตเคยเป็นทหารจีนคณะชาติ (กองพล93) หรือ ก๊กมินตั๊ง หน้าหนาวที่นี่อากาศจะหนาวมากๆ บรรยากาศที่นี่สวยงามมาก ภูเขา หมอก และทะเลสาบตัดกัน คล้ายกับอยู่ประเทศจีนกันเลยทีเดียว มีการเดินป่าทัศนศึกษาโดยมีมัคคุเทศก์ตัวจ้อยนำทาง นั่งเรือในทะเลสาบ ปั่นจักรยาน เรียนรู้วัฒนธรรมยูนนานผ่านอาหาร และนอกจากชาแล้ว ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องขาหมูหมั่นโถวมาก ๆ เลยค่ะ และถ้าจะพูดถึงที่พักที่ขึ้นชื่อก็คงหนีไม่พ้น ลีไวน์รักไทยรีสอร์ท ที่ทุกคนคงเห็นภาพผ่านตาตามโซเชียลมาบ้าง หากจะมาสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามขนาดนี้ ก็อาจจะต้องใจสู้สักนิด เพราะที่นี่อยู่แม่ฮ่องสอนที่เกือบจะออกไปเมียนมาร์กันแล้ว ถึงจะ 1,864 โค้ง แต่สวยงามขนาดนี้ไม่มาได้ยังไงกัน สู้ค่ะ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ติดต่อจองห้องพักผ่าน Facebook : Leewinerukthai Resort
เบอร์ : 082-566-6699
13. อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน จ.อุตรดิตถ์
เป็นอีกที่ที่เหมาะกับหน้าหนาวไม่แพ้ที่ไหน แต่นอกจากป่าที่อุดมสมบูรณ์ ภูเขาที่สลับซับซ้อน อ่างเก็บน้ำที่สวยงามแล้ว อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน อ.ท่าปลา จ.แม่ฮ่องสอน ยังเป็นแหล่งต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จุดที่คนนิยมไปชมพระอาทิตย์ตกดินคือ ทะเลสาบสุริยันต์จันทรา มีกิจกรรมล่องแพ เส้นทางทัศนศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง เส้นแรก 2.5 กม. และเส้นที่สอง 4 กม. และแน่นอนว่าสามารถกางเต๊นท์ได้นะคะ มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท/คนและเด็ก 10บาท/คน หากเป็นต่างชาติ จะราคา 100 บาท และ 50 บาท ตามลำดับ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน – Lamnam Nan National Park
เบอร์ : 090-604-7793
14. ภูลังกา จ.พะเยา
เป็นอีกที่ที่น่าไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติในหน้าหนาวนี้ ภูลังกา อ.ปง จ.พะเยา ตั้งอยู่ในวนอุทยานภูลังกาซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำเปื๋อย ป่าน้ำหยวน ป่าน้ำลาว และป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยมอีกที เป็นเทือกเขาที่สลับซับซ้อนกัน มีเส้นทางเดินป่าพิชิตยอดดอยยาว 3 กม. ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าจึงไม่แปลกนักที่จะพบนกมากมายหลายสายพันธุ์ที่นี่ นอกจากนี้ ที่นี่ยังน้ำตาภูลังกา และมีร้านกาแฟที่เป็นที่นิยมของที่นี่ นั่นคือ Magic Mountain ในวนอุทยานมีบ้านพัก 5 หลังและลานกางเต๊นท์ให้บริการ อีกทั้งยังมีที่พักจากเอกชนคอยให้บริการด้วย อย่างเช่น มะนาว โฮมสเตย์ ที่พักบรรยากาศดี เจ้าของเป็นกันเองและใช่ค่ะ สืบมาแล้วว่าที่นี่มีหมูกระทะให้บริการด้วย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : มะนาว โฮมสเตย์ ภูลังกา
เบอร์ : 081-032-6673
15. ดอยภูนาง จ.พะเยา
อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง อ.เชียงม่วน จ.พะเยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อน มีบ้านพัก ลานกางเต๊นท์ ห้องน้ำ ร้านอาหาร ล่องแก่ง ไปสัมผัสกับธรรมชาติของนกยูง ไก่ฟ้า เดินเข้าไป 1 กม.ก็จะพบกับน้ำตกธารสวรรค์ที่สวยงาม มีน้ำตลอดปีและต้นสมพง ต้นไม้ที่หาได้ยาก หากหน้าหนาวก็จะได้พบกับหมอกในยามเช้า ซึ่งที่นี่จะเริ่มเปิดให้บริการ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง – Doi Phu Nang National Park
เบอร์ : 095-690-0605
16. อุทยานแห่งชาติป่าแม่ปืม จ.พะเยา
อุทยานแห่งชาติป่าแม่ปืม อ.แม่ใจ จ.พะเยา เป็นต้นกำเนิดของลำน้ำแม่แก้วและลำน้ำแม่ปืม มีภูเขาต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวขจีสวยงาม นอกจากสายหมอกที่จะได้พบแล้ว ในช่วงหน้าหนาวนี้ จะมีนกเป็ดน้ำอพยพมาที่อ่างเก็บน้ำแม่ปืม มีกิจกรรมคือ พายเรือคายัค ตกปลา คล้องกุญแจที่สะพานไม้เพื่อแสดงถึงพลังในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ อีกทั้ง ยังมีบ้านพักและลานกางเต๊นท์ไว้บริการ ที่นี่จะเปิดให้บริการอีกที วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : อุทยานแห่งชาติแม่ปืม – Maae Puem National Park
เบอร์ : 093-265-3035
17. ม่อนเทเลทับบี้ จ.แพร่
ม่อนเทเลทับบี้ หรือ จุดชมวิวหลังพระธาตุปูแจ หรือ ถนนลอยฟ้า อ.ร้องกวาง จ.แพร่ มีภูเขา ป่าและทุ่งข้าวโพดสลับกันเต็มสองข้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1343 เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ที่เพิ่งถูกค้นพบไม่เกินสิบปีให้หลังมานี้ ซึ่งจากลักษณะของภูเขาก็ทำให้เราอดนึกถึงเทเลทับบี้แลนด์ แหล่งที่อาศัยของตัวการ์ตูนซีรีส์ในวัยเด็กที่แสนจะคุ้นเคยอย่าง เทเลทับบี้ เหล่าตัวละครสีม่วง เขียว เหลือง แดง ไปไม่ได้ หากใครอยากมาสัมผัสกับบรรยากาศ (ที่คล้าย) เทเลทับบี้แลนด์โดยเฉพาะหน้าหนาวนี้ล่ะก็ ไปกันเลย
18. อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน จ.ลำพูน
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน อ.แม่ทา จ.ลำพูน ที่นี่เป็นแหล่งต้นน้ำส่วนหนึ่งของแม่น้ำปิงและแม่น้ำวัง เป็นอุทยานแห่งชาติที่เดียวที่สามารถไปทางรถไฟได้ เพราะที่นี่มีสถานีรถไฟขุนตาน ซึ่งหลาย ๆ คนคงคุ้นเคยชื่อ ขุนตานดีจากอุโมงค์ขุนตาน ซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในไทย ด้วยความที่ธรรมชาติสมบูรณ์นั้น ที่นี่จะทำให้เราได้พบกัลความหลากหลายทางชีวภาพมากมาย เช่น กล้วยไม้ พลวง สมอพิเภก งิ้วป่า ลิลลี่ กระต่ายป่า หมูป่า ไก่ป่า เก้ง ชะมดแผงหางเปลื้อง กระจ้อน นกอีวาบตั๊กแตน และอื่นๆ อีกทั้ง ที่นี่ยังมีบ้านพักไว้คอยบริการอีกด้วย มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท/คน หากนำเต๊นท์มาเองจะเสียค่าใช้จ่ายในการกางเต๊นท์
30 บาท/เต๊นท์ หากหน้าหนาวนี้ยังไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวในใจ ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ
คำแนะนำ : ตอนนี้มีการปิดบริเวณ ลานสน ย.2และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกตาดเหมยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ 25 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะปกติ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
จองที่พักผ่านทาง http://nps.dnp.go.th/reservation.php
Facebook : อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน – Doi Khun Tan National Park
เบอร์ : 081-032-6341
19. ผาแดงหลวง จ.ลำพูน
ที่เที่ยวเหนือ หน้าหนาว ผาแดงหลวง อ.ลี้ จ.ลำพูน อยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง เป็นหน้าผาสูงชันที่สามารถเห็นวิวแม่น้ำปิงที่คดเคี้ยวกว้างไกลสุดสายตา คนนิยมมาชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้วส่องกระทบผิวน้ำแล้วตัดกับหมอกด้านล่าง แต่ที่นี่ต้องนั่งรถเพื่อไปยังจุดเดินขึ้น 1 ชม.แล้วต้องเดินขึ้นผาไปอีก 2 กม. ก็ต้องตื่นเช้ามืดหน่อย ในส่วนของราคา จะคิดเป็นรายกลุ่ม 3,500 บาท/5คน ถ้ามากกว่านั้น คิดเพิ่มหัวละ 300 บาท (ราคานี้รวมค่าที่พัก ค่าอุทยาน ค่าเจ้าหน้าที่ดูแลและมัคคุเทศก์ ค่าอาหาร ค่ารถ 4×4) โดยจะกางเต๊นท์ได้แค่บริเวณทุ่งกิ๊ก มีห้องน้ำและลานรอบกองไฟ (ซึ่งถ้าโชคดีอาจได้เจอกวาง)
คำแนะนำ : ที่นี่เปิดให้ชมช่วงเดือนธันวาคม – มกราคมและจำกัดจำนวนคนแค่ 50 คน/วัน
หากใครจะขับรถขึ้นไปเอง ต้องมีเจ้าหน้าที่ไปด้วย เพราะที่นี่ต้องระวังสัตว์ป่า (ค่าใช้จ่าย 800 บาท)
สัญญาณโทรศัพท์อ่อนไปจนถึงไม่มี
เงื่อนไขรายละเอียดอื่น ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ล่วงหน้าทุกครั้งก่อนเดินทาง 7 วัน !!! เพื่อเช็คความพร้อมของเจ้าหน้าที่และสถานที่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์ : 093-130-8439 คุณหนานเจ
20. บ้านปงผาง จ.ลำพูน
ที่เที่ยวเหนือ หน้าหนาว ปงผาง อ.แม่ทา จ.ลำพูน หมู่บ้านขนาดเล็กของชาวปกาเกอะญอที่มีอาชีพหลักคือ การทำไร่ ปลูกข้าว หาของป่าและทอผ้า ที่นี่มีทั้งภูเขา ลำธาร หมอกตัดกลางหมู่บ้าน ที่นี่มีเส้นทางท่องเที่ยวปงผาง escape 3 วัน 2 คืน โครงการท่องเที่ยวชุมชนโดยเทศบาล จะผ่านบ้านผาด่าน บ้านสะแงะ และบ้านปงผาง อีกทั้งยังมีเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ซึ่งจะเปิดรับนักทักท่องเที่ยวในฤดูหนาวนี้ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมดริปกาแฟสด รวมถึงชมศิลปะการวาดสีเทียนโดยศิลปิน และอาหารพื้นถิ่น เมนูไฮไลท์มี ต้นผักสวนครัว/สมุนไพร ลาบคั่ว(ปลา/หมู/ควาย ตามฤดูกาล) ข้าวเบ๊อะ ไข่เจียวสมุนไพร ข้าวหนุกงา โดยแพ็คเกจนี้ราคา 3,450 บาท/คน/ระยะเวลา 3วัน 2คืน รวมค่าไกด์ท้องถิ่น บ้านพัก/เต๊นท์ รถ4WDขึ้นดอย และค่าอาหารทั้งหมด 7 มื้อ นอกจากจะสูดกลิ่นธรรมชาติเข้าปอดแล้ว ยังได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชาวปกาเกอะญออีกด้วย นี่แหละ Hidden gem ของลำพูนสุด ๆ ที่นักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมจะพลาดไม่ได้
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
จองที่พักผ่าน Line : @tour_pongphang
Facecbook : Pongpang Escape : ท่องเที่ยวชุมชน
และนี่คือ 20 ที่เที่ยวเหนือ หน้าหนาว รับไอเย็นทะเลหมอก 2022 จากทั่วทั้งภาคเหนือ ซึ่งภาคเหนือกับฤดูหนาวนี่เหมือนของคู่กันเลยทีเดียว แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ภาคเหนือยังมีสถานที่ ๆ น่าสนใจในอีกหลากหลายรูปแบบ พาตัวเองไปชาร์จแบตจากธรรมชาติ ร่วมชื่นชมวัฒนธรรม ดื่มด่ำธรรมชาติไปกับ ภูเขา ลมหนาว และสายหมอกที่กำลังจะมาในฤดูหนาวนี้ไปด้วย
แต่นอกจากภาคเหนือแล้ว ประเทศไทยของเราก็ยังมีสถานท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวน่าสนใจหลายที่มาก ๆ และต่อไปเราจะแนะนำที่ไหน ไกลหรือใกล้ ที่ไหนฮิต รอติดตามกันต่อไปนะคะ
แหล่งที่มาของข้อมูล
อ่านต่อที่ 7 น้ำตกใกล้กรุงเทพ น้ำตกธรรมชาติ หลบร้อนไปแช่น้ำ คลายความร้อน น่าไปสุดๆ