ที่เที่ยวหน้าหนาว
เมื่ออากาศหนาวใกล้เข้ามาเยือน เตรียมตัวออกเดินทางไปกับ 10 ที่เที่ยวหน้าหนาว ห้ามพลาด 2022 ที่ได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจจากหลากหลายภูมิภาคในประเทศไทย ไม่ว่าจะสายชิล หรือ สายเดินป่าส่องธรรมชาติ ก็มีทั้งนั้น แล้วจะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลย!
1. ห้วยกุ๊บกั๊บ จ.เชียงใหม่
ห้วยกุ๊บกั๊บ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่าลาหู่หรือมูเซอแดง ชาวบ้านส่วนใหญ่จะทำนา ไร่ และปลูกผัก ส่วนที่มาของชื่อ คือ สมัยก่อนเส้นทางเข้าหมู่บ้านกันดารมาก
ต้องขี่ม้าเข้าไปเท่านั้น และเสียงกุ๊บกั๊บที่ว่าก็คือฝีเท้าของม้านั่นเอง สิ่งที่ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งใน ที่เที่ยวหน้าหนาว ที่น่าสนใจ นั่นก็คือ ความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทะเลหมอกในยามเช้าและวิถีชีวิตของชาวลาหู่ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาเดินป่าไปยังผาสามเหลี่ยม โดยเริ่มจากนั่งรถ 4WD ขึ้นไป 2 กม.และเดินเท้าต่อไปอีก 3 กม. (ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม.) โดยจะต้องจ้างไกด์นำทางด้วย ที่พักที่นี่มีแบบโฮมสเตย์และลานกางเต๊นท์ ที่นี่ใช้ไฟฟ้าจากแผง Solar cell ในยามค่ำคืน (ไม่ได้มีไฟฟ้าใช้ตลอด) สัญญาณอินเทอร์เน็ตอ่อนถึงไม่มี ใครที่ต้องการ Social Detox ที่นี่ตอบโจทย์มากหากอยากชื่นชมบรรยากาศสุดน่ารักและสัมผัสวิถีชีวิตของชาวลาหู่ ขอแนะนำที่พักอย่าง บ้านกุ๊บกิ๊บ ณ ห้วยกุ๊บกั๊บ มานอนดูดาวและทางช้างเผือกกันที่นี่ได้เลยค่ะ สวยมากๆ เจ้าของยังเป็นกันเองมากอีกด้วย ในส่วนของการเดินทางนั้น นำรถจอดที่จุดจอด คันละ 50 บาท แล้วนั่งรถของที่พักขึ้นมาจะสะดวกกว่า เพราะทางที่นี่ค่อนข้างลำบาก ไม่เหมาะกับผู้ชำนาญทาง แบกเป้ตามไปกันเลย!
คำแนะนำ : ควรพกทิชชู่เปียกติดตัวบ้าง ห้องพักไม่มีแอร์ พัดลมและเครื่องทำน้ำอุ่น (อากาศดี
เย็นสบาย) ไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบความสบายและผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัว
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ติดต่อจองที่พักผ่าน Facebook : บ้านกุ๊บกิ๊บ ณ ห้วยกุ๊บกั๊บ
เบอร์ : 083-945-9966
2.เมืองแกน จ.เชียงใหม่
เมืองแกน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ชุมชนที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย ธรรมชาติที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา นาข้าว สายน้ำอย่างเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลและสายหมอก ที่นี่มีทุ่งดอก Star light สวนดอกไม้ที่มีดอกไม้มากมายนานาพรรณ ร้านอาหารและร้านกาแฟอย่าง Kramfeine หรือ ครามเฟอีน ที่จะได้เพลิดเพลินกับท้องฟ้า ทุ่งนา ภูเขา บรรยากาศ Slow lifeและอบอุ่นสไตล์ Homie เจ้าของร้านเป็นกันเองมาก เหมาะกับการพักผ่อน มีการบินพารามอเตอร์เพื่อชมวิวรอบ ๆ เมืองแกน สามารถติดต่อบินได้ที่ @Funfly Paramotor เมื่อไปถึงโรงแรมภูสันฟ้ารีสอร์ท ให้แจ้งยามว่า มาเล่นพารามอเตอร์ได้เลย มีชุดให้เปลี่ยนและก่อนการเล่นจะต้องเซ็นเอกสารเกี่ยวกับประกันภัย ชั่งน้ำหนักและรับกล้อง GoPro มา โดยใช้เวลาประมาณ 25 – 30 นาที ติดต่อสอบถามราคาได้ทางเพจ รวมถึงที่นี่ยังมีม่อนฟ้าผ่า ในหมู่บ้านผาแดง ที่นี่ชาวบ้านเป็นชนเผ่าลาหู่ ทำการเกษตร หากอยากสัมผัมบรรยากาศของเมืองแกนอีกหนึ่งที่เที่ยวหน้าหนาวที่น่าสนใจ อย่าพลาดที่นี่นะคะ
คำแนะนำ : หากจะขึ้นม่อนฟ้าผ่า ควรมีไกด์ชำนาญเส้นทางแนะนำ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :
Facebook : FUN FLY Paramotor (ปิดทุกวันอังคาร)
เบอร์ : 095-585-9333
3. ปางไฮ-เทพเสด็จ จ.เชียงใหม่
ปางไฮ-เทพเสด็จ หมู่บ้านเล็ก ๆ และ Slow life กลางป่า อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ที่นี่มีน้ำตกเยอะมากทีเดียว รวมถึงเป็นแหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้า ที่นี่นอกจากธรรมชาติที่เขียวขจีร่มรื่นและสงบแล้ว ก็ยังมีลำธารไหลผ่านอีกด้วย นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีที่พักอย่าง ฮิมดอยโฮม ณ ปางไฮ ที่พักริมน้ำที่ล้อมรอบไปด้วยความอุมดมสมบูรณ์ ตอบโจทย์คนรักธรรมชาติได้ดีมาก ที่พักมีหลากหลายรูปแบบ และแต่ละที่อยู่ห่างกัน ราคา 1,800 – 2,500 บาท (รวมอาหารเช้า) บ้านทุกหลังมีห้องน้ำส่วนตัว เป็นส่วนตัวและเห็นลำธารทุกหลัง มีน้ำตกด้วย ภายในที่พักไม่มีแอร์ แต่มีพัดลม เพราะอากาศดี ที่นี่มีร้านอาหารและคาเฟ่คอยให้บริการ มีจักรยานให้ยืมไว้ปั่นไปชมหมู่บ้านเพื่อถ่ายรูปหรือสัมผัสวิถีชีวิตผู้คน
เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวหน้าหนาวที่น่าสนใจในเชียงใหม่มากเลยทีเดียว
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : HimdoihomePanghi
เบอร์ : 093-172-6629
4. บ้านแม่แมะ จ.เชียงใหม่
บ้านแม่แมะ เป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่โด่งดังของ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่นี่เป็นชุมชนที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามเขียวขจีอย่างยิ่ง หากต้องการดื่มด่ำบรรยากาศนานๆ ขอแนะนำที่พักอย่าง บ้านต้นไม้แม่แมะ โฮมสเตย์กลางป่าที่แรกของแม่แมะ ไฮไลท์ของที่นี่ คือ บ้านพักที่ทำจากไม้ ขนาด 3 ชั้น ที่อยู่ท่ามกลางป่าเขา และอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติ เพลิดเพลินกับลำธารที่ไหลผ่านกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่ห้องน้ำที่นี่เป็นห้องน้ำรวม ราคา 750 บาท/คน รวมที่พักและอาหาร 2 มื้อ มื้อเย็นและเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ที่นี่มีมุมพักผ่อนนั่งเล่นที่ระเบียง มีทั้งโต๊ะนั่ง เปลนอน มีการนวดในชุมชน และอื่นๆ ส่วนตอนกลางคืน
มีการนั่งล้อมรอบกองไฟชมการแสดงจากเด็กในหมู่บ้าน มีกิจกรรมเดินป่า โดยเสียค่านำทางให้ไกด์ 300 บาท/กลุ่ม ใครที่นำรถส่วนตัวมา สามารถจอดขนสัมภาระด้านหน้า แล้วนำรถไปจอดที่วัดแม่แมะ ส่วนใครที่ไม่ได้รถมาแล้วต้องการรถสาธารณะให้บริการ จะมีราคาดังต่อไปนี้ ค่ารถไป-กลับ 600 บาท/คน
(จาก7-11แม่นะ) และ 700 บาท/คน (จากสถานีขนส่งเชียงดาว) หากไม่อยากพลาดบรรยากาศบ้านต้นไม้ที่สวยงามและเขียวขจีแบบนี้ อย่าลืมรีบจองกันนะคะ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : บ้านต้นไม้แม่แมะ Tree House Hideaway
เบอร์ : 081-958-5601
5. ผาฮี้ จ.เชียงราย
ใครที่อยากจะไปแอ่วเหนือ ที่เที่ยวหน้าหนาวอีกที่ๆอยากจะแนะนำ นั่นก็คือ ผาฮี้ หมู่บ้านบนยอดดอยของชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า มูเซอดำและมูเซอแดง อ.แม่สาย จ.เชียงราย อยู่ใกล้กับชายแดนไทย-เมียนมาร์ ขึ้นชื่ออย่างมากเรื่องปลูกกาแฟที่เป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ใหญ่อีกแห่งหนึ่งของไทย โดยเฉพาะพันธุ์อาราบิก้าและได้คัดสรรกาแฟที่มีคุณภาพส่งและกระจายไปทั่วทั้งประเทศ รวมถึงต่างประเทศ กาแฟของที่นี่จะมี Signature คือ รสชาตินุ่มนวล แต่รสหวานคล้ายผลไม้ ส่วนบรรยากาศของที่นี่เต็มไปด้วยภูเขาเขียวขจีที่โอบล้อม วิวที่เห็นนั้น คือดอยผามีและดอยตุง มีที่พัก ร้านอาหารที่มีเมนูอาหารพื้นบ้านพิเศษของที่นี่ คือ ข้าวดอย และร้านกาแฟที่มีไฮไลท์ของที่นี่คือการจิบกาแฟแบบห้อยขาในร้านที่มีกลิ่นตลบอบอวลเต็มไปด้วยกาแฟกับวิวทิวเขาด้านหน้าที่อลังการระดับหลักล้าน มีจุดชมวิวของหมู่บ้านและชิงช้าของชาวบ้าน มีสะพานไม้ไผ่ผาฮี้ที่มีไร่กาแฟโอบล้อมและร่มสีสันสดใสอยู่ด้านบน นอกจากนี้ ขอแนะนำที่พักที่มีวิวสวยงามไม่แพ้ใคร นั่นก็คือ PhaHee Mountain View Cafe&Camp ใครที่อยากมาจิบกาแฟท่ามกลางวิวหลักล้าน ตั้งที่นี่เป็นที่แรกในลิสต์ได้เลยค่ะ!
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : PhaHee Mountain View Cafe&Camp
เบอร์ : 092-614-6270
6. โมโกจู จ.กำแพงเพชร
ไปพบกับที่เที่ยวหน้าหนาวสุดหิน โมโกจู อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร เป็นยอดเขาสูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เหมาะกับการเดินป่า ปีนเขา ชื่อโมโกจู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า เหมือนฝนกำลังจะตก เพราะที่นี่ถูกเมฆปกคลุม มีอากาศหนาวเย็นแบบควันออกปากเหมือนฝนจะตก ใครสายลุยที่อยากพิชิตเขาสุดโหด ต้องระวังทางอย่างมาก เพราะทางที่นี่ลาดชันพอสมควร ไม่ต่ำกว่า 60 องศาและเพราะสาเหตุนี้ ทริปที่นี่จึงใช้เวลาถึง 5 วันในการไปกลับ ระยะทาง 27 กิโลเมตรที่ต้องเดินเท้าเข้าไปทั้งนั้น
ที่นี่จะเปิดแค่เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี ระหว่างทางจะมีจุดพักตั้งแคมป์เรื่อย ๆ และน้ำตกให้แช่เล่นคลายเหนื่อย ใครที่อยากจะเป็นผู้กล้าพิชิตโมโกจู ใครสายแอดเวนเจอร์ ชีวิตนี้ต้องลองมาสักครั้ง!
คำแนะนำ : ศึกษาเส้นทาง สภาพอากาศและเตรียมร่างกายให้แข็งแรง (ทางเดินลาดชันค่อนข้างมาก)
ติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ โดยตรงและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
เบอร์ : 061-048-4837
7. ดอนม่อนคลุย จ.ตาก
หลาย ๆ คนที่กำลังหาที่เที่ยวชมหมอกในช่วงอากาศหนาวขอแนะนำที่นี่ ดอยม่อนคลุย
อ.ท่าสองยางจ.ตาก ในทิศตะวันออก หมอกจะลอยเหนือแม่น้ำเงา (แม่น้ำที่กั้น จ.ตาก และ จ.เชียงใหม่) ทิศตะวันตก ทะเลหมอกลอยเหนือแม่น้ำเมย (แม่น้ำที่กั้นไทยและเมียนมาร์) ที่นี่มีลานกว้างไว้กางเต๊นท์นอนดูดาวในยามกลางคืนและชมทะเลหมอกในยามเช้า ซึ่งในบางคืนอาจจะเจอทางช้างเผือกด้วย รวมถึงห้องน้ำคอยให้บริการ(บางครั้งอาจเหลือน้อยหรือไม่เพียงพอ เพราะ ต้องใช้รถบรรทุกน้ำขนขึ้นมา) ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวธรรมชาติ ขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ
คำแนะนำ : ก่อนเข้ามาในพื้นที่ควรแจ้งอบต.ไว้ล่วงหน้า
เตรียมอาหารให้พร้อม
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสองยาง
เบอร์ : 05-557-7437, 089-268-0116, 085-705-4459, 080-181-5820
8. ม่อนทูเล จ.ตาก
ที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกหนึ่งที่ในช่วงหน้าหนาว นั่นคือ ม่อนทูเล อ.ท่าสองยางจ.ตาก หรือ ที่ภาษาปาเกอะญอเรียกว่า ทู-เล-โค๊ะ หมายถึง ภูเขาสีทอง ที่ได้มาจากช่วงพระอาทิตย์ตกดิน/ขึ้น ภูเขาแห่งนี้จะเป็นสีทองตามแสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องมาที่ภูเขา การเดินทางนั้นต้องไต่ระดับความสูงไปตามสันเขา หนักถึงขั้นที่ต้องใช้มือคอยจับต้นหญ้าเพื่อดึงตัวเองเดินขึ้นไป เส้นทางเดินป่านั้น คุณจะได้พบกับอุโมงค์ต้นไม้และทุ่งดอกไม้เล็กๆ น่ารัก ส่วนตอนกลางคืน จะพบกับนาดาวละลานตา เพราะที่นี่ไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่บัง ทำให้เห็นดวงดาวมากมายบนท้องฟ้า ที่นี่ใช้เวลาขึ้นดอยหว่า 4-7 ชม. ระยะทาง 7.5กม. แม้ว่าเส้นทางจะลำบากแต่ก็มั่นใจได้ว่าที่นี่จะเป็นประสบการณ์ที่ดีของคุณแน่นอน
คำแนะนำ : ต้องทำการโทรจองล่วงหน้า โดยแจ้งวัน เวลา และจำนวนผู้ร่วมทริป
รวมถึงเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมต่อการเดินทาง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์ : 088-428-8790, 02-278-0225, 02-619-7993, 02-617-1775
9. ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น
ภูผาม่าน อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น หนึ่งในลิสต์ที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวที่น่าสนใจมาก เพราะหลายคนคงคิดว่าบรรยากาศนี้จะหาเจอได้แค่ที่ภาคเหนือเท่านั้น แต่ไม่ใช่ เพราะที่นี่อยู่ที่ภาคอีสาน
ที่นี่มีบรรยายกาศดี นอกจากความเขียวขจีของทุ่งหญ้า สายหมอกในยามเช้า และยังมีภูเขาหินปูนขนาดใหญ่อีกด้วย มีที่พัก ลานกางเต๊นท์และคาเฟ่ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเห็นภูเขานี้ได้ทุกที่ แต่ถ้าอยากเห็นแบบชัดเจน แนะนำให้ไปที่ จุดชมวิวหนองสมอ อีกทั้งที่นี่ยังมี Blue Lagoon สระน้ำสีฟ้าเขียวราวกับมรกตที่ถูกล้อมรอบด้วยหินปูนซึ่งเป็นเหมืองหินเก่าของโรงโม่หิน มีน้ำตกพลาญทองและถ้ำค้างคาวที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ หากอยากสัมผัสบรรยากาศของภูผาม่านแบบเต็มตา
ก็เตรียมเก็บของและจองที่พักกันได้เลยค่ะ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน – Phuphaman National Park
เบอร์ : 065-423-1215, 04-300-1753
10. ฆูนุงซิลีปัต จ.ยะลา
และมาถึงที่สุดท้ายของที่เที่ยวในช่วงหน้าหนาวที่เราอยากนำเสนอ นั่นก็คือ ฆูนุงซีลีปัตอ.เบตง จ.ยะลา อำเภอและจังหวัดที่อยู่ใต้ที่สุดของประเทศไทย หลาย ๆ คนได้อ่านคงงงกันเลยทีเดียวว่าที่เบตง เราจะเจอสายหมอกได้หรอ คำตอบคือได้ค่ะ ที่นี่สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศาและนอกจากนั้นจะได้สัมผัสกับภูเขาสุดเขียวขจีที่ตัดกับหมอกขาวหนาดั่งปุยนุ่น จะมาวันเดียวหรือนอนค้างคืนก็ได้ กิจกรรมที่คนนิยมกันก็คือ ชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ด้านบนมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด เลยจำกัดนักท่องเที่ยวแค่ 70 – 80 คน/รอบและนอกจากนี้ อ.เบตง ยังมีสถานที่ชมหมอกขึ้นอีกหนึ่งที่ได้แก่ ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง หากอยากไปชมทะเลหมอกที่อยู่ใต้สุดของไทยบ้าง จองทริปเลยค่ะ!
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : ฆูนุงซีลีปัต – ฆูนุงซาลี Gunungsilipat
เบอร์ : 081-093-8549, 082-265-6900
และทั้งหมดนี่คือ 10 ที่เที่ยวหน้าหนาว ห้ามพลาด 2022 ที่นักท่องเที่ยวจะได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบและสวยงาม รวมไปถึงสัมผัสวิถีชีวิตต่างๆในชุมชนนั้นๆ นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ก็ัยังมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ที่รอนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนอยู่
และหากใครที่แพลนจะหาที่ท่องเที่ยวในหน้าหนาวนี้แล้ว สถานีต่อไปคือต้องรีบไปจองที่พักกันแล้วนะคะ เพราะหลายๆที่มีการจองล่วงหน้าเป็นเดือนและใกล้จะเต็มกันแล้วว! หากไม่อยากพลาด Book ด่วนๆเลยค่ะ!
ข้อมูล
https://thai.tourismthailand.org
อ่านต่อที่ 10 ที่เที่ยวเชียงราย ไปแอ่วให้ม่วนใจ เอาใจสายธรรมชาติ