7 ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว

7 ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว วันนี้เราจะพาไปหาที่เที่ยวภาคอีสาน ไปเก็บเกี่ยวความสุขกันเถอะ จะไปกับใครก็ฟินได้ ไม่ไปไม่ได้แล้ว เพราะว่าภาคอีสานเป็นภาคที่มีจุดเช็คอินเยอะมาก ๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความเป็นธรรมชาติ และคงความเป็นศิลปะและวัฒนธรรมของผู้คนในท้องถิ่นใจดีทุกคนไปดูกันเลย 1. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนจะเข้าไปในตัวอีสานเราเข้าไปจุดเช็คอินอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กันก่อนค่ะ เพราะเป็น ที่เที่ยวภาคอีสาน ที่เราต้องแวะเก็บเกี่ยวความสุขกันก่อนค่ะ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นอะไรที่ดีต่อใจมาก ๆ อุทยานแห่งนี้ยังเป็นที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของประเทศไทยเลยนะ และเป็นอุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก มีอาณาเขตมากถึง 4 จังหวัดเลยทีเดียวค่ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี อำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก และอำเภอแก่งคอย อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เที่ยวเขาใหญ่ มีพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาล ครอบคลุม เนื้อที่ถึง 4 จังหวัด ดังนั้นจึงมีพื้นที่เที่ยวจึงมีเยอะมาก ๆ ค่ะ ไปเที่ยวด้วยกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนครราชสีมาสระบุรี ปราจีนบุรี และ นครนายก ถือว่าเป็นแหล่งโอโซนจากธรรมชาติเน้น ๆ ใครที่ได้ไปแหล่งท่องเที่ยวที่เขาใหญ่ ก็จะได้สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอดเลยค่ะ ไม่ว่าจะไปเที่ยวในฤดูไหน ๆ สภาพป่าก็จะมีความชุ่มชื่น คงความเป็นธรรมชาติ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่าและพืชพรรณนานาชนิด และมีทุ่งหญ้าสีเขียวขจี เหมาะมากสำหรับทุกคนที่รักธรรมชาติ ไหน ๆ ประเทศก็เปิดประเทศ ไปเที่ยวด้วยกันเถอะ 2. ภูทอก ที่เที่ยวภาคอีสาน เชิญไปเก็บเกี่ยวความสุขให้เต็มที่กันเลยค่ะ ที่นี่เลย ภูทอก อยู่ที่จังหวัดบึงกาฬ เป็นที่เที่ยวตามธรรมชาติที่มีความสวยมาก และเป็นที่ตั้งของ วัดเจติยาศรีวิหาร หรือ วัดภูทอก อยู่ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล ใครที่ชอบความสงบบรรยากาศเงียบ ภูทอกจะมีภูเขา 2 ลูก ค่ะ ภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย เป็นจุดสามารถขึ้นไปชมได้ค่ะ ที่เป็นที่ตั้งของวัดภูทอกน้อย ซึ่งตรงนี้จะมีบันไดเวียนและสะพานไม้วนอยู่รอบ ๆ เขา ซึ่งสามารถเดินตรงจุดนี้ไปที่จุดจุดชมวิวได้ค่ะ วัดและสถานปฏิบัติธรรม ที่อยู่ด้านบน มีทั้งหมด 7 ชั้น ส่วนตัวคิดว่าจุดชมวิวที่สวยที่สุดคือจุดชมวิวชั้น 6 ค่ะ และอีกชั้นหนึ่งคือชั้นที่ 5 เหมาะสำหรับการนั่งสมาธิเป็นอย่างมากเพราะว่าชั้นที่ 5 จะมีประดิษฐานพระพุทธรูปและมีกุฏิพระและมีความเงียบมาก ๆ แค่นั่งเฉย ๆ ก็ช่วยให้จิตใจสงบได้แล้วค่ะ ภูทอก แห่งนี้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นจุดเช็คอินอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดค่ะ 3. น้ำตกถ้ำพระจังหวัดบึงกาฬ ที่เที่ยวภาคอีสาน ไปเก็บเกี่ยวความสุขไปเที่ยวด้วยกันค่ะ ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว เพราะภาคอีสานถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว และมีที่เที่ยวเยอะมาก น้ำตกถ้ำพระเป็นอีกแห่งที่อยากจะบอกว่าน้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่คู่ควรกับการไปเที่ยวจริง ๆ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาจุดเช็คอินแห่งนี้เยอะมากที่สุดค่ะ แต่การเดินทางไปอาจจะยากนิดหนึ่งนะ การไปน้ำตกถ้ำพระจะต้องเดินทางด้วยการนั่งเรือเข้าไปเท่านั้น และใช้เวลาในการนั่งเรือ 20 นาที หลังจากลงจากเรือแล้วก็ต้องเดินเท้าไปอีกประมาณ 300 เมตร แต่สำหรับเราถือว่าเป็นความท้าทายในการเดินทางไปน้ำตกแห่งนี้มาก ซึ่งน้ำตกจะมี 3 ชั้น ชั้นที่ 1 จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในหน้าผา ให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้สักการะบูชาตามความชื่นชอบของแต่ละคน ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สนุกมาก ๆ ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัย สาย ๆ ๆ สายหวาน ๆ ไม่แน่ใจว่าจะชอบไหม 55 ล้อเล่น สามารถเล่นสไลด์เดอร์ธรรมชาติ ที่สนุกมากต้องลองไปเล่นแล้วจะติดใจ และบางทีเคยเล่นแล้วยังอยากจะกลับไปเล่นซ้ำอีก แต่ต้องไปช่วงฤดูฝนเพราะช่วงฤดูฝนน่าเที่ยวที่สุดเพราะน้ำตกจะสวยมาก นั่นเป็นเพราะน่าฝนน้ำตกจะมีน้ำมาก ยิ่งน้ำมากก็จะยิ่งสวยค่ะ อ้ออีกเรื่องที่อยากจะบอก คือใครที่จะไปเที่ยวที่น้ำตก น้ำตกถ้ำพระ ต้องเตรียมอาหารไปด้วยและน้ำดื่มก็ต้องนำไปด้วยเช่นกัน นำมานั่งกินนั่งชมน้ำตกไปด้วย ชมความงดงามของน้ำตกไปที่ช่วยให้เราผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีค่ะ สำหรับเราถือว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นจุดเช็คอิน และเป็นดินแดนมหัศจรรย์ Unseen Thailand ที่เราจะเก็บไว้ในใจตลอดไป อยากชวนให้ทุกคนไปเที่ยวด้วยกันค่ะ น้ำตกถ้ำพระ อยู่ที่หมู่บ้านถ้ำพระ หมู่ที่ 9 ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เปิดเวลา 08.00 น. ปิดเวลา 17.00 น. เปิดทุกวัน และไม่ต้องจ่ายเงินเข้า ฟรี ๆ ค่ะ 4. พันโขดแสนไคร้ ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง คือ จุดเช็คอิน สำหรับทุกคน คือ เที่ยวพันโขดแสนไคร้ จังหวัดหนองคาย เป็นอีกหนึ่งเมืองริมโขงที่นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาล่องเรือชมแม่น้ำ ไปกับใครก็ฟิน ที่นี่เลยค่ะ พันโขดแสนไคร้ เป็นจุดล่องเรือตามแม่น้ำโขง ใช้เวลาในการล่องเรืองประมาณ 1 ชั่วโมง รู้ไหมว่าที่นี่เขาล่ำลือกันมาก และให้สมญาว่าเป็น แกรนด์แคนยอนแม่น้ำโขงแห่งหนองคาย เพราะว่ามีต้นไคร้เยอะมาก ๆ เป็นแสน ๆ ต้น ต้นไม้จะขึ้นบนโขดหินเต็มไปหมด และยังมีเนินทรายกลางแม่น้ำโขงอีกเยอะมาก ในช่วงที่น้ำโขงลดลงต่ำ ชาวบ้านจะรวมตัวกันเพื่อให้บริการล่องเรือชมพันโขดแสนไคร้ โขดหินนับพัน ๆ ก้อนที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำโขง หินแต่ละก้อนจะมีความสวยงามมากและหินที่โผล่ออกมาจะมีหลายสี ถ้าเป็นหินสีดำนิลจะมีความมันวาวสวยงามมาก และมีแข็งแกร่ง ดูแล้วสวยงามเหลือเกินประทับใจมาก ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย นักท่องเที่ยวจะเริ่มเดินทางมาที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ ตั้งใจไปสักครั้งไปเที่ยวให้สนุกเลยค่ะ 5. ทะเลบัวแดง ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง และที่นี่ คือ จุดเช็คอินสำหรับทุกคนที่ชอบ บัวแดง ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด ที่นี่ คือทะเลบัวแดง จะมีบัวแดงบานเต็ม บึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปี สวยงามที่สุดในภาคอีสานค่ะ ที่นี่เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่มีพื้นที่มากกว่าสองหมื่นไร่ จึงมีความหลากหลายทางชีวภาพและอุดมไปด้วยพืชน้ำ พันธุ์นก และสัตว์น้ำจืดหลากหลายชนิดมากค่ะ และพันธุ์พืชที่เป็น ไฮไลท์ของที่นี่ก็ คือ บัวแดงนั่นเอง บัวแดงจะเบ่งบานตระการตาเป็นที่น่าประทับใจมาก ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปชมบัวแดง คือ เดือนมกราคม - เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีเท่านั้นค่ะ ช่วงที่บัวแดงจะเบ่งบานงามสะพรั่งมาก ๆ ที่สุด คือ เดือน มกราคม ดังนั้นหากใครอยากจะไปสัมผัสกับความสวยของบัวแดง ต้องตั้งใจไปให้ได้สักครั้งค่ะ และต้องไปเดือน มกราคม เท่านั้น เพื่อที่จะได้เห็นบัวแดงจะบานสะพรั่งสวยประทับใจมากที่สุดค่ะ นักท่องเที่ยวต่างไปถ่ายรูปหลาย ๆ กันหลาย ๆ รูปหลาย ๆ บ้างก็แต่งชุดไทยไปถ่าย เพื่อให้เข้ากับบรรยกาศของบัวแดง แต่เราก็สามารถถ่ายรูปตามสไตล์เรา ๆ ได้ค่ะ ทะเลบัวแดงบ่องบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ที่ควรค่าแก่การไปสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นย่างมากค่ะ อยากชวนทุกคนไปเที่ยวด้วยกันค่ะ ทะเลบัวแดงอยู่ที่หนองหาน ตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานีค่ะ อ้อมีค่าใช้จ่ายด้วยนะ ค่าเรือค่ะ ถ้าเป็นเรือเล็กนั่งได้ 2 คนค่าเรือคนละ 150 บาท แต่ถ้าเป็นเรือใหญ่ เหมาทั้งลำ นั่งได้ 6 คน ค่าเรือ 500 บาทค่ะ 6. คำชะโนด ไปเที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟินได้ค่ะ ที่แห่งนี้ คือคำชะโนด หรือ วังนาคินทร์คำชะโนด ไม่ไปไม่ได้แล้ว ตั้งอยู่ใน อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นเกาะลอยน้ำ มีต้นชะโนดเต็มไปหมดคะ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีต่อใจเป็นอย่างมากค่ะ เพราะเชื่อกันว่ามีความศักสิทธิ์ และเป็นที่สิงสถิตของพญานาค ปู่ศรีสุทโธ ย่าศรีประทุมมา ผู้คนส่วนใหญ่ที่มีความศรัทธาจะพากันไปขอพร ขอโชคลาภไปกันอย่างเนืองแน่น เรียกว่าไม่ขาดสายเลยทีเดียวค่ะ ในป่าคำชะโนด มีศาลเจ้าปูศรีสุทโธ อยู่ตรงจุดต้นไทรขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่ทุกคนจะมากราบไหว้บูชากันเยอะมากที่สุดค่ะ และยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ บ่อคำชะโนด อยู่กลางเกาะเป็นบ่อน้ำใต้ดิบที่น้ำไม่เคยขาดหรือแห้งเลย เชื่อกันว่าเป็นประตูเชื่อมไปสู่เมืองบาดาลได้อีกด้วย ต้องตั้งใจไปสักครั้งเพราะสถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่มีความศักสิทธิ์ คุ้มค่ากับการเดินทางไปเป็นอย่างมากค่ะ 7. สะพานเทพสุดา ที่เที่ยวภาคอีสาน ใครมาอีสานแล้วต้องมาที่ สะพานเทพสุดา เพราะที่นี่คือสะพานข้ามน้ำจืด ที่มีความยาวมาก ๆ ตัดข้าม เขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นเขื่อนดินที่ใหญ่มาก ๆ เช่นกัน สพานแห่งนี้ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนรู้จักกันมากที่สุดในจังหวัดกาฬสินธุ์ มีทางเดินยาวทั้งสองฝั่ง ทำให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมวิว เพราะที่สะพานแห่งนี้มีอากาศจะดีมาก สะพานเทพสุดา ในช่วงเย็นถ้าเรามายืนข้างสะพานเราก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ตก เพราะสามารถยืนมองบนสะพานนี้มองเห็นได้ชัดมาก อยากชวนไปเที่ยวชมวิวบนสะพานแห่งนี้ด้วยกันค่ะ เพราะเขาจะมีทางเดินตลอดสองฝั่งของสะพานให้เดิน เราสามารถเดินชมวิวได้ค่ะ นอกจากจะเดินชมวิว เราคิดว่าด้วยระยะทางที่ยาวถึง 2 กิโลเมตร ยังช่วยให้เราได้ในเรื่องของการออกกำลังกายไปด้วยนะ แต่ไม่ต้องห่วงไม่เหนื่อยแน่นอนค่ะ เพราะเราจะเพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยรับรองสนุกและสวยงามมาก ๆ ค่ะ เป็นยังไงบ้างค่ะ ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว และ 7 ที่เที่ยวภาคอีสาน ที่เราจัดเตรียมไว้ให้ หวังว่าทุกคนคงจะเก็บเกี่ยวความสุขกันได้เยอะเลยทีเดียวนะค่ะ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวของภาคอีสานมีเยอะมาก และที่สำคัญผู้คนในท้องถิ่นของภาคอีสานใจดีและน่ารักทุกคนค่ะ ทักทายแบบเป็นกันเองมากทำให้ ภาคอีสานมีสเน่ห์มาก ที่เที่ยวของภาคอีสานแต่ละที่ที่เราจัดไว้สวยงามมาก ๆ ควรค่าแก่การเต็มใจไปท่องเที่ยวเป็นอย่างมากค่ะ เครดิตรูป การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
7 ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว วันนี้เราจะพาไปหาที่เที่ยวภาคอีสาน ไปเก็บเกี่ยวความสุขกันเถอะ จะไปกับใครก็ฟินได้ ไม่ไปไม่ได้แล้ว เพราะว่าภาคอีสานเป็นภาคที่มีจุดเช็คอินเยอะมาก ๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความเป็นธรรมชาติ และคงความเป็นศิลปะและวัฒนธรรมของผู้คนในท้องถิ่นใจดีทุกคนไปดูกันเลย 1. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนจะเข้าไปในตัวอีสานเราเข้าไปจุดเช็คอินอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กันก่อนค่ะ เพราะเป็น ที่เที่ยวภาคอีสาน ที่เราต้องแวะเก็บเกี่ยวความสุขกันก่อนค่ะ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นอะไรที่ดีต่อใจมาก ๆ อุทยานแห่งนี้ยังเป็นที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของประเทศไทยเลยนะ และเป็นอุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก มีอาณาเขตมากถึง 4 จังหวัดเลยทีเดียวค่ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี อำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก และอำเภอแก่งคอย อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เที่ยวเขาใหญ่ มีพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาล ครอบคลุม เนื้อที่ถึง 4 จังหวัด ดังนั้นจึงมีพื้นที่เที่ยวจึงมีเยอะมาก ๆ ค่ะ ไปเที่ยวด้วยกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนครราชสีมาสระบุรี ปราจีนบุรี และ นครนายก ถือว่าเป็นแหล่งโอโซนจากธรรมชาติเน้น ๆ ใครที่ได้ไปแหล่งท่องเที่ยวที่เขาใหญ่ ก็จะได้สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอดเลยค่ะ ไม่ว่าจะไปเที่ยวในฤดูไหน ๆ สภาพป่าก็จะมีความชุ่มชื่น คงความเป็นธรรมชาติ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่าและพืชพรรณนานาชนิด และมีทุ่งหญ้าสีเขียวขจี เหมาะมากสำหรับทุกคนที่รักธรรมชาติ ไหน ๆ ประเทศก็เปิดประเทศ ไปเที่ยวด้วยกันเถอะ 2. ภูทอก ที่เที่ยวภาคอีสาน เชิญไปเก็บเกี่ยวความสุขให้เต็มที่กันเลยค่ะ ที่นี่เลย ภูทอก อยู่ที่จังหวัดบึงกาฬ เป็นที่เที่ยวตามธรรมชาติที่มีความสวยมาก และเป็นที่ตั้งของ วัดเจติยาศรีวิหาร หรือ วัดภูทอก อยู่ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล ใครที่ชอบความสงบบรรยากาศเงียบ ภูทอกจะมีภูเขา 2 ลูก ค่ะ ภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย เป็นจุดสามารถขึ้นไปชมได้ค่ะ ที่เป็นที่ตั้งของวัดภูทอกน้อย ซึ่งตรงนี้จะมีบันไดเวียนและสะพานไม้วนอยู่รอบ ๆ เขา ซึ่งสามารถเดินตรงจุดนี้ไปที่จุดจุดชมวิวได้ค่ะ วัดและสถานปฏิบัติธรรม ที่อยู่ด้านบน มีทั้งหมด 7 ชั้น ส่วนตัวคิดว่าจุดชมวิวที่สวยที่สุดคือจุดชมวิวชั้น 6 ค่ะ และอีกชั้นหนึ่งคือชั้นที่ 5 เหมาะสำหรับการนั่งสมาธิเป็นอย่างมากเพราะว่าชั้นที่ 5 จะมีประดิษฐานพระพุทธรูปและมีกุฏิพระและมีความเงียบมาก ๆ แค่นั่งเฉย ๆ ก็ช่วยให้จิตใจสงบได้แล้วค่ะ ภูทอก แห่งนี้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นจุดเช็คอินอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดค่ะ 3. น้ำตกถ้ำพระจังหวัดบึงกาฬ ที่เที่ยวภาคอีสาน ไปเก็บเกี่ยวความสุขไปเที่ยวด้วยกันค่ะ ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว เพราะภาคอีสานถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว และมีที่เที่ยวเยอะมาก น้ำตกถ้ำพระเป็นอีกแห่งที่อยากจะบอกว่าน้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่คู่ควรกับการไปเที่ยวจริง ๆ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาจุดเช็คอินแห่งนี้เยอะมากที่สุดค่ะ แต่การเดินทางไปอาจจะยากนิดหนึ่งนะ การไปน้ำตกถ้ำพระจะต้องเดินทางด้วยการนั่งเรือเข้าไปเท่านั้น และใช้เวลาในการนั่งเรือ 20 นาที หลังจากลงจากเรือแล้วก็ต้องเดินเท้าไปอีกประมาณ 300 เมตร แต่สำหรับเราถือว่าเป็นความท้าทายในการเดินทางไปน้ำตกแห่งนี้มาก ซึ่งน้ำตกจะมี 3 ชั้น ชั้นที่ 1 จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในหน้าผา ให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้สักการะบูชาตามความชื่นชอบของแต่ละคน ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สนุกมาก ๆ ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัย สาย ๆ ๆ สายหวาน ๆ ไม่แน่ใจว่าจะชอบไหม 55 ล้อเล่น สามารถเล่นสไลด์เดอร์ธรรมชาติ ที่สนุกมากต้องลองไปเล่นแล้วจะติดใจ และบางทีเคยเล่นแล้วยังอยากจะกลับไปเล่นซ้ำอีก แต่ต้องไปช่วงฤดูฝนเพราะช่วงฤดูฝนน่าเที่ยวที่สุดเพราะน้ำตกจะสวยมาก นั่นเป็นเพราะน่าฝนน้ำตกจะมีน้ำมาก ยิ่งน้ำมากก็จะยิ่งสวยค่ะ อ้ออีกเรื่องที่อยากจะบอก คือใครที่จะไปเที่ยวที่น้ำตก น้ำตกถ้ำพระ ต้องเตรียมอาหารไปด้วยและน้ำดื่มก็ต้องนำไปด้วยเช่นกัน นำมานั่งกินนั่งชมน้ำตกไปด้วย ชมความงดงามของน้ำตกไปที่ช่วยให้เราผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีค่ะ สำหรับเราถือว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นจุดเช็คอิน และเป็นดินแดนมหัศจรรย์ Unseen Thailand ที่เราจะเก็บไว้ในใจตลอดไป อยากชวนให้ทุกคนไปเที่ยวด้วยกันค่ะ น้ำตกถ้ำพระ อยู่ที่หมู่บ้านถ้ำพระ หมู่ที่ 9 ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เปิดเวลา 08.00 น. ปิดเวลา 17.00 น. เปิดทุกวัน และไม่ต้องจ่ายเงินเข้า ฟรี ๆ ค่ะ 4. พันโขดแสนไคร้ ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง คือ จุดเช็คอิน สำหรับทุกคน คือ เที่ยวพันโขดแสนไคร้ จังหวัดหนองคาย เป็นอีกหนึ่งเมืองริมโขงที่นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาล่องเรือชมแม่น้ำ ไปกับใครก็ฟิน ที่นี่เลยค่ะ พันโขดแสนไคร้ เป็นจุดล่องเรือตามแม่น้ำโขง ใช้เวลาในการล่องเรืองประมาณ 1 ชั่วโมง รู้ไหมว่าที่นี่เขาล่ำลือกันมาก และให้สมญาว่าเป็น แกรนด์แคนยอนแม่น้ำโขงแห่งหนองคาย เพราะว่ามีต้นไคร้เยอะมาก ๆ เป็นแสน ๆ ต้น ต้นไม้จะขึ้นบนโขดหินเต็มไปหมด และยังมีเนินทรายกลางแม่น้ำโขงอีกเยอะมาก ในช่วงที่น้ำโขงลดลงต่ำ ชาวบ้านจะรวมตัวกันเพื่อให้บริการล่องเรือชมพันโขดแสนไคร้ โขดหินนับพัน ๆ ก้อนที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำโขง หินแต่ละก้อนจะมีความสวยงามมากและหินที่โผล่ออกมาจะมีหลายสี ถ้าเป็นหินสีดำนิลจะมีความมันวาวสวยงามมาก และมีแข็งแกร่ง ดูแล้วสวยงามเหลือเกินประทับใจมาก ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย นักท่องเที่ยวจะเริ่มเดินทางมาที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ ตั้งใจไปสักครั้งไปเที่ยวให้สนุกเลยค่ะ 5. ทะเลบัวแดง ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง และที่นี่ คือ จุดเช็คอินสำหรับทุกคนที่ชอบ บัวแดง ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด ที่นี่ คือทะเลบัวแดง จะมีบัวแดงบานเต็ม บึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปี สวยงามที่สุดในภาคอีสานค่ะ ที่นี่เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่มีพื้นที่มากกว่าสองหมื่นไร่ จึงมีความหลากหลายทางชีวภาพและอุดมไปด้วยพืชน้ำ พันธุ์นก และสัตว์น้ำจืดหลากหลายชนิดมากค่ะ และพันธุ์พืชที่เป็น ไฮไลท์ของที่นี่ก็ คือ บัวแดงนั่นเอง บัวแดงจะเบ่งบานตระการตาเป็นที่น่าประทับใจมาก ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปชมบัวแดง คือ เดือนมกราคม - เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีเท่านั้นค่ะ ช่วงที่บัวแดงจะเบ่งบานงามสะพรั่งมาก ๆ ที่สุด คือ เดือน มกราคม ดังนั้นหากใครอยากจะไปสัมผัสกับความสวยของบัวแดง ต้องตั้งใจไปให้ได้สักครั้งค่ะ และต้องไปเดือน มกราคม เท่านั้น เพื่อที่จะได้เห็นบัวแดงจะบานสะพรั่งสวยประทับใจมากที่สุดค่ะ นักท่องเที่ยวต่างไปถ่ายรูปหลาย ๆ กันหลาย ๆ รูปหลาย ๆ บ้างก็แต่งชุดไทยไปถ่าย เพื่อให้เข้ากับบรรยกาศของบัวแดง แต่เราก็สามารถถ่ายรูปตามสไตล์เรา ๆ ได้ค่ะ ทะเลบัวแดงบ่องบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ที่ควรค่าแก่การไปสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นย่างมากค่ะ อยากชวนทุกคนไปเที่ยวด้วยกันค่ะ ทะเลบัวแดงอยู่ที่หนองหาน ตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานีค่ะ อ้อมีค่าใช้จ่ายด้วยนะ ค่าเรือค่ะ ถ้าเป็นเรือเล็กนั่งได้ 2 คนค่าเรือคนละ 150 บาท แต่ถ้าเป็นเรือใหญ่ เหมาทั้งลำ นั่งได้ 6 คน ค่าเรือ 500 บาทค่ะ 6. คำชะโนด ไปเที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟินได้ค่ะ ที่แห่งนี้ คือคำชะโนด หรือ วังนาคินทร์คำชะโนด ไม่ไปไม่ได้แล้ว ตั้งอยู่ใน อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นเกาะลอยน้ำ มีต้นชะโนดเต็มไปหมดคะ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีต่อใจเป็นอย่างมากค่ะ เพราะเชื่อกันว่ามีความศักสิทธิ์ และเป็นที่สิงสถิตของพญานาค ปู่ศรีสุทโธ ย่าศรีประทุมมา ผู้คนส่วนใหญ่ที่มีความศรัทธาจะพากันไปขอพร ขอโชคลาภไปกันอย่างเนืองแน่น เรียกว่าไม่ขาดสายเลยทีเดียวค่ะ ในป่าคำชะโนด มีศาลเจ้าปูศรีสุทโธ อยู่ตรงจุดต้นไทรขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่ทุกคนจะมากราบไหว้บูชากันเยอะมากที่สุดค่ะ และยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ บ่อคำชะโนด อยู่กลางเกาะเป็นบ่อน้ำใต้ดิบที่น้ำไม่เคยขาดหรือแห้งเลย เชื่อกันว่าเป็นประตูเชื่อมไปสู่เมืองบาดาลได้อีกด้วย ต้องตั้งใจไปสักครั้งเพราะสถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่มีความศักสิทธิ์ คุ้มค่ากับการเดินทางไปเป็นอย่างมากค่ะ 7. สะพานเทพสุดา ที่เที่ยวภาคอีสาน ใครมาอีสานแล้วต้องมาที่ สะพานเทพสุดา เพราะที่นี่คือสะพานข้ามน้ำจืด ที่มีความยาวมาก ๆ ตัดข้าม เขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นเขื่อนดินที่ใหญ่มาก ๆ เช่นกัน สพานแห่งนี้ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนรู้จักกันมากที่สุดในจังหวัดกาฬสินธุ์ มีทางเดินยาวทั้งสองฝั่ง ทำให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมวิว เพราะที่สะพานแห่งนี้มีอากาศจะดีมาก สะพานเทพสุดา ในช่วงเย็นถ้าเรามายืนข้างสะพานเราก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ตก เพราะสามารถยืนมองบนสะพานนี้มองเห็นได้ชัดมาก อยากชวนไปเที่ยวชมวิวบนสะพานแห่งนี้ด้วยกันค่ะ เพราะเขาจะมีทางเดินตลอดสองฝั่งของสะพานให้เดิน เราสามารถเดินชมวิวได้ค่ะ นอกจากจะเดินชมวิว เราคิดว่าด้วยระยะทางที่ยาวถึง 2 กิโลเมตร ยังช่วยให้เราได้ในเรื่องของการออกกำลังกายไปด้วยนะ แต่ไม่ต้องห่วงไม่เหนื่อยแน่นอนค่ะ เพราะเราจะเพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยรับรองสนุกและสวยงามมาก ๆ ค่ะ เป็นยังไงบ้างค่ะ ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว และ 7 ที่เที่ยวภาคอีสาน ที่เราจัดเตรียมไว้ให้ หวังว่าทุกคนคงจะเก็บเกี่ยวความสุขกันได้เยอะเลยทีเดียวนะค่ะ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวของภาคอีสานมีเยอะมาก และที่สำคัญผู้คนในท้องถิ่นของภาคอีสานใจดีและน่ารักทุกคนค่ะ ทักทายแบบเป็นกันเองมากทำให้ ภาคอีสานมีสเน่ห์มาก ที่เที่ยวของภาคอีสานแต่ละที่ที่เราจัดไว้สวยงามมาก ๆ ควรค่าแก่การเต็มใจไปท่องเที่ยวเป็นอย่างมากค่ะ เครดิตรูป การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ที่เที่ยวภาคอีสาน

7 ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว - h

วันนี้เราจะพาไปหา ที่เที่ยวภาคอีสาน ไปก็บเกี่ยวความสุขกันเถอะ จะไปกับใครก็ฟินได้ ไม่ไปไม่ได้แล้ว เพราะว่าภาคอีสานเป็นภาคที่มีจุดเช็คอินเยอะมาก ๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความเป็นธรรมชาติ และคงความเป็นศิลปะและวัฒนธรรมของผู้คนในท้องถิ่นใจดีทุกคนไปดูกันเลย

1. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

7 ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว - อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ก่อนจะเข้าไปในตัวอีสานเราเข้าไปจุดเช็คอินอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กันก่อนค่ะ เพราะเป็น ที่เที่ยวภาคอีสาน ที่เราต้องแวะเก็บเกี่ยวความสุขกันก่อนค่ะ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นอะไรที่ดีต่อใจมาก ๆ อุทยานแห่งนี้ยังเป็นที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของประเทศไทยเลยนะ และเป็นอุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก มีอาณาเขตมากถึง 4 จังหวัดเลยทีเดียวค่ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี อำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก และอำเภอแก่งคอย อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เที่ยวเขาใหญ่ มีพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาล ครอบคลุม เนื้อที่ถึง 4 จังหวัด

ดังนั้นจึงมีพื้นที่เที่ยวจึงมีเยอะมาก ๆ ค่ะ ไปเที่ยวด้วยกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนครราชสีมาสระบุรี ปราจีนบุรี และ นครนายก ถือว่าเป็นแหล่งโอโซนจากธรรมชาติเน้น ๆ ใครที่ได้ไปแหล่งท่องเที่ยวที่เขาใหญ่ ก็จะได้สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอดเลยค่ะ ไม่ว่าจะไปเที่ยวในฤดูไหน ๆ สภาพป่าก็จะมีความชุ่มชื่น คงความเป็นธรรมชาติ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่าและพืชพรรณนานาชนิด และมีทุ่งหญ้าสีเขียวขจี เหมาะมากสำหรับทุกคนที่รักธรรมชาติ ไหน ๆ ประเทศก็เปิดประเทศ ไปเที่ยวด้วยกันเถอะ

2. ภูทอก

7 ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว - ภูทอก

ที่เที่ยวภาคอีสาน เชิญไปเก็บเกี่ยวความสุขให้เต็มที่กันเลยค่ะ ที่นี่เลย ภูทอก อยู่ที่จังหวัดบึงกาฬ เป็นที่เที่ยวตามธรรมชาติที่มีความสวยมาก และเป็นที่ตั้งของ วัดเจติยาศรีวิหาร หรือ วัดภูทอก อยู่ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล ใครที่ชอบความสงบบรรยากาศเงียบ 

ภูทอกจะมีภูเขา 2 ลูก ค่ะ ภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย เป็นจุดสามารถขึ้นไปชมได้ค่ะ ที่เป็นที่ตั้งของวัดภูทอกน้อย ซึ่งตรงนี้จะมีบันไดเวียนและสะพานไม้วนอยู่รอบ ๆ เขา ซึ่งสามารถเดินตรงจุดนี้ไปที่จุดจุดชมวิวได้ค่ะ วัดและสถานปฏิบัติธรรม ที่อยู่ด้านบน มีทั้งหมด 7 ชั้น

ส่วนตัวคิดว่าจุดชมวิวที่สวยที่สุดคือจุดชมวิวชั้น 6 ค่ะ และอีกชั้นหนึ่งคือชั้นที่ 5 เหมาะสำหรับการนั่งสมาธิเป็นอย่างมากเพราะว่าชั้นที่ 5 จะมีประดิษฐานพระพุทธรูปและมีกุฏิพระและมีความเงียบมาก ๆ แค่นั่งเฉย ๆ ก็ช่วยให้จิตใจสงบได้แล้วค่ะ ภูทอก แห่งนี้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นจุดเช็คอินอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดค่ะ

3. น้ำตกถ้ำพระจังหวัดบึงกาฬ

7 ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว - น้ำตกถ้ำพระจังหวัดบึงกาฬ

ที่เที่ยวภาคอีสาน ไปเก็บเกี่ยวความสุขไปเที่ยวด้วยกันค่ะ ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว เพราะภาคอีสานถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว และมีที่เที่ยวเยอะมาก น้ำตกถ้ำพระเป็นอีกแห่งที่อยากจะบอกว่าน้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่คู่ควรกับการไปเที่ยวจริง ๆ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาจุดเช็คอินแห่งนี้เยอะมากที่สุดค่ะ

แต่การเดินทางไปอาจจะยากนิดหนึ่งนะ การไปน้ำตกถ้ำพระจะต้องเดินทางด้วยการนั่งเรือเข้าไปเท่านั้น และใช้เวลาในการนั่งเรือ 20 นาที หลังจากลงจากเรือแล้วก็ต้องเดินเท้าไปอีกประมาณ 300 เมตร แต่สำหรับเราถือว่าเป็นความท้าทายในการเดินทางไปน้ำตกแห่งนี้มาก ซึ่งน้ำตกจะมี 3 ชั้น ชั้นที่ 1 จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในหน้าผา ให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้สักการะบูชาตามความชื่นชอบของแต่ละคน ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สนุกมาก ๆ

ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัย สาย ๆ ๆ สายหวาน ๆ ไม่แน่ใจว่าจะชอบไหม 55 ล้อเล่น สามารถเล่นสไลด์เดอร์ธรรมชาติ ที่สนุกมากต้องลองไปเล่นแล้วจะติดใจ และบางทีเคยเล่นแล้วยังอยากจะกลับไปเล่นซ้ำอีก แต่ต้องไปช่วงฤดูฝนเพราะช่วงฤดูฝนน่าเที่ยวที่สุดเพราะน้ำตกจะสวยมาก นั่นเป็นเพราะน่าฝนน้ำตกจะมีน้ำมาก ยิ่งน้ำมากก็จะยิ่งสวยค่ะ

อ้ออีกเรื่องที่อยากจะบอก คือใครที่จะไปเที่ยวที่น้ำตก น้ำตกถ้ำพระ ต้องเตรียมอาหารไปด้วยและน้ำดื่มก็ต้องนำไปด้วยเช่นกัน นำมานั่งกินนั่งชมน้ำตกไปด้วย ชมความงดงามของน้ำตกไปที่ช่วยให้เราผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีค่ะ สำหรับเราถือว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นจุดเช็คอิน
และเป็นดินแดนมหัศจรรย์ Unseen Thailand ที่เราจะเก็บไว้ในใจตลอดไป อยากชวนให้ทุกคนไปเที่ยวด้วยกันค่ะ

น้ำตกถ้ำพระ อยู่ที่หมู่บ้านถ้ำพระ หมู่ที่ 9 ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เปิดเวลา 08.00 น. ปิดเวลา 17.00 น. เปิดทุกวัน และไม่ต้องจ่ายเงินเข้า ฟรี ๆ ค่ะ

4. พันโขดแสนไคร้

ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง คือ จุดเช็คอิน สำหรับทุกคน คือ เที่ยวพันโขดแสนไคร้ จังหวัดหนองคาย เป็นอีกหนึ่งเมืองริมโขงที่นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาล่องเรือชมแม่น้ำ ไปกับใครก็ฟิน ที่นี่เลยค่ะ พันโขดแสนไคร้ เป็นจุดล่องเรือตามแม่น้ำโขง ใช้เวลาในการล่องเรืองประมาณ 1 ชั่วโมง รู้ไหมว่าที่นี่เขาล่ำลือกันมาก และให้สมญาว่าเป็น แกรนด์แคนยอนแม่น้ำโขงแห่งหนองคาย เพราะว่ามีต้นไคร้เยอะมาก ๆ เป็นแสน ๆ ต้น ต้นไม้จะขึ้นบนโขดหินเต็มไปหมด และยังมีเนินทรายกลางแม่น้ำโขงอีกเยอะมาก

ในช่วงที่น้ำโขงลดลงต่ำ ชาวบ้านจะรวมตัวกันเพื่อให้บริการล่องเรือชมพันโขดแสนไคร้ โขดหินนับพัน ๆ ก้อนที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำโขง หินแต่ละก้อนจะมีความสวยงามมากและหินที่โผล่ออกมาจะมีหลายสี ถ้าเป็นหินสีดำนิลจะมีความมันวาวสวยงามมาก และมีแข็งแกร่ง ดูแล้วสวยงามเหลือเกินประทับใจมาก ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย นักท่องเที่ยวจะเริ่มเดินทางมาที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ ตั้งใจไปสักครั้งไปเที่ยวให้สนุกเลยค่ะ

5. ทะเลบัวแดง

ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง และที่นี่ คือ จุดเช็คอินสำหรับทุกคนที่ชอบ บัวแดง ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด ที่นี่ คือทะเลบัวแดง จะมีบัวแดงบานเต็ม บึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปี สวยงามที่สุดในภาคอีสานค่ะ ที่นี่เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่มีพื้นที่มากกว่าสองหมื่นไร่ จึงมีความหลากหลายทางชีวภาพและอุดมไปด้วยพืชน้ำ พันธุ์นก และสัตว์น้ำจืดหลากหลายชนิดมากค่ะ และพันธุ์พืชที่เป็น

ไฮไลท์ของที่นี่ก็ คือ บัวแดงนั่นเอง บัวแดงจะเบ่งบานตระการตาเป็นที่น่าประทับใจมาก ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปชมบัวแดง คือ เดือนมกราคม – เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีเท่านั้นค่ะ ช่วงที่บัวแดงจะเบ่งบานงามสะพรั่งมาก ๆ ที่สุด คือ เดือน มกราคม ดังนั้นหากใครอยากจะไปสัมผัสกับความสวยของบัวแดง ต้องตั้งใจไปให้ได้สักครั้งค่ะ และต้องไปเดือน มกราคม เท่านั้น เพื่อที่จะได้เห็นบัวแดงจะบานสะพรั่งสวยประทับใจมากที่สุดค่ะ


นักท่องเที่ยวต่างไปถ่ายรูปหลาย ๆ กันหลาย ๆ รูปหลาย ๆ บ้างก็แต่งชุดไทยไปถ่าย เพื่อให้เข้ากับบรรยกาศของบัวแดง แต่เราก็สามารถถ่ายรูปตามสไตล์เรา ๆ ได้ค่ะ  ทะเลบัวแดงบ่องบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ที่ควรค่าแก่การไปสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นย่างมากค่ะ อยากชวนทุกคนไปเที่ยวด้วยกันค่ะ ทะเลบัวแดงอยู่ที่หนองหาน ตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานีค่ะ อ้อมีค่าใช้จ่ายด้วยนะ ค่าเรือค่ะ ถ้าเป็นเรือเล็กนั่งได้ 2 คนค่าเรือคนละ 150 บาท แต่ถ้าเป็นเรือใหญ่ เหมาทั้งลำ นั่งได้ 6 คน ค่าเรือ 500 บาทค่ะ 

6. คำชะโนด 

ไปเที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟินได้ค่ะ ที่แห่งนี้ คือคำชะโนด หรือ วังนาคินทร์คำชะโนด ไม่ไปไม่ได้แล้ว ตั้งอยู่ใน อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี  ซึ่งเป็นเกาะลอยน้ำ มีต้นชะโนดเต็มไปหมดคะ  ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีต่อใจเป็นอย่างมากค่ะ เพราะเชื่อกันว่ามีความศักสิทธิ์ และเป็นที่สิงสถิตของพญานาค ปู่ศรีสุทโธ ย่าศรีประทุมมา ผู้คนส่วนใหญ่ที่มีความศรัทธาจะพากันไปขอพร ขอโชคลาภไปกันอย่างเนืองแน่น เรียกว่าไม่ขาดสายเลยทีเดียวค่ะ

ในป่าคำชะโนด มีศาลเจ้าปูศรีสุทโธ อยู่ตรงจุดต้นไทรขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่ทุกคนจะมากราบไหว้บูชากันเยอะมากที่สุดค่ะ และยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ บ่อคำชะโนด อยู่กลางเกาะเป็นบ่อน้ำใต้ดิบที่น้ำไม่เคยขาดหรือแห้งเลย เชื่อกันว่าเป็นประตูเชื่อมไปสู่เมืองบาดาลได้อีกด้วย ต้องตั้งใจไปสักครั้งเพราะสถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่มีความศักสิทธิ์ คุ้มค่ากับการเดินทางไปเป็นอย่างมากค่ะ

7. สะพานเทพสุดา 


ที่เที่ยวภาคอีสาน ใครมาอีสานแล้วต้องมาที่ สะพานเทพสุดา เพราะที่นี่คือสะพานข้ามน้ำจืด ที่มีความยาวมาก ๆ ตัดข้าม เขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นเขื่อนดินที่ใหญ่มาก ๆ เช่นกัน สพานแห่งนี้ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนรู้จักกันมากที่สุดในจังหวัดกาฬสินธุ์ มีทางเดินยาวทั้งสองฝั่ง ทำให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมวิว เพราะที่สะพานแห่งนี้มีอากาศจะดีมาก สะพานเทพสุดา ในช่วงเย็นถ้าเรามายืนข้างสะพานเราก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ตก เพราะสามารถยืนมองบนสะพานนี้มองเห็นได้ชัดมาก อยากชวนไปเที่ยวชมวิวบนสะพานแห่งนี้ด้วยกันค่ะ เพราะเขาจะมีทางเดินตลอดสองฝั่งของสะพานให้เดิน เราสามารถเดินชมวิวได้ค่ะ นอกจากจะเดินชมวิว เราคิดว่าด้วยระยะทางที่ยาวถึง 2 กิโลเมตร ยังช่วยให้เราได้ในเรื่องของการออกกำลังกายไปด้วยนะ แต่ไม่ต้องห่วงไม่เหนื่อยแน่นอนค่ะ เพราะเราจะเพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยรับรองสนุกและสวยงามมาก ๆ ค่ะ

เป็นยังไงบ้างค่ะ ที่เที่ยวภาคอีสาน เก็บเกี่ยวความสุข ไปกับใครก็ฟิน ไม่ไปไม่ได้แล้ว และ 7 ที่เที่ยวภาคอีสาน ที่เราจัดเตรียมไว้ให้ หวังว่าทุกคนคงจะเก็บเกี่ยวความสุขกันได้เยอะเลยทีเดียวนะค่ะ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวของภาคอีสานมีเยอะมาก และที่สำคัญผู้คนในท้องถิ่นของภาคอีสานใจดีและน่ารักทุกคนค่ะ ทักทายแบบเป็นกันเองมากทำให้
ภาคอีสานมีสเน่ห์มาก ที่เที่ยวของภาคอีสานแต่ละที่ที่เราจัดไว้สวยงามมาก ๆ ควรค่าแก่การเต็มใจไปท่องเที่ยวเป็นอย่างมากค่ะ

เครดิตรูป
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

อ่านต่อได้ที่ 7 ที่เที่ยวหน้าฝน เปลี่ยนหน้าฝนที่เคยน่าเบื่อ ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ อย่าหวั่นแม้วันเปียกปอน

LUNA666

สล็อตแตกง่ายๆ

Table of Contents

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

Categories

ดูเพิ่มเติม

ร้านอาหารอร่อย
kinkubsher

แฟชั่นผู้ชาย
maleextratoday

แบบบ้าน
baan-design

แต่งงาน
weddingdistrictfrance

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
liqinfo

Table of Contents